ตามรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับดุลการชำระเงินของจีนที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 พ.ย.) จีนมี FDI ติดลบ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสก.ค.-ก.ย. ถือเป็นครั้งแรกที่ติดลบรายไตรมาสนับตั้งแต่ที่หน่วยงานกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีนเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2541 โดยอาจเกิดจากการที่ประเทศตะวันตกถอนการลงทุนออกจากจีน ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ดุลพื้นฐานของจีน ซึ่งประกอบด้วยดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการลงทุนโดยตรง มีการขาดดุลถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการขาดดุลรายไตรมาสเป็นครั้งที่สองเป็นประวัติการณ์
ด้านสกุลเงินหยวนของจีนมีปริมาณการซื้อขายกับดอลลาร์สหรัฐในตลาดภายในประเทศลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.85 ล้านล้านหยวน (2.5405 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนต.ค. โดยลดลง 73% จากระดับเดือนส.ค. สะท้อนถึงภาครัฐที่พยายามป้องกันไม่ให้มีการเทขายเงินหยวน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยกับทางรอยเตอร์ว่า ธนาคารกลางจีนกำลังขอให้ธนาคารใหญ่ ๆ จำกัดการซื้อขายหยวนกับดอลลาร์ และสนับสนุนให้ลูกค้าไม่แลกเปลี่ยนเงินหยวนเป็นดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 66)
Tags: FDI, จีน, ชาติตะวันตก, ถอนทุน, บริษัทต่างชาติ, เงินลงทุน