โบรกฯมองบวก CRC ลุย Go Wholesale แม้ต้องแบกขาดทุน 2-3 ปีแรกแต่หนุนภาพโตระยะยาว

โบรกเกอร์หลายเจ้าออกบทวิเคราะห์ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) หลังจากพาทัวร์ร้าน Go Wholesal สาขาแรกบนถนนศรีนครินทร์ ส่วนใหญ่มองภาพบวกว่าจะส่งผลต่อในระยะยาว แม่ช่วงแรกจะต้องแบกผลขาดทุนจากแผนลุยเร่งเปิดสาขาจำนวนมากเพื่อสู้กับคู่แข่งรายใหญ่ในตลาด โดยเฉพาะรายสำคัญอย่าง CPAXT

บล.กรุงศรี ระบุว่า รู้สึกประทับใจกับร้านขนาดสาขาแรก 7,000 ตารางเมตร ซึ่งตั้งเป้าลูกค้าขายส่ง โดยเฉพาะกลุ่ม โรงแรม ร้านอาหาร และ บริการจัดเลี้ยง (HORECA) รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทางด้านอาหาร เรารู้สึกว่าทางร้านคัดเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูง ราคาไม่แพง และ ให้บริการที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ เรามองว่าสินค้าในกลุ่มอาหารแห้งและไม่ใช่อาหารตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่ม HORECA ได้ดี

สำหรับในส่วนของโครงสร้างรายได้ กลุ่ม HORECA และ กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทางด้านอาหารคิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้รวมในปัจจุบัน เมื่อแบ่งตามประเภทสินค้า อาหารสดคิดเป็น 50% ของรายได้รวม ขณะที่อาหารแห้งคิดเป็น 35% และสินค้าที่ไม่ใช่อาหารคิดเป็น 15% ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายอาหารสดที่สูง (เมื่อเทียบกับธุรกิจค้าส่งของ CPAXT ที่ 41%) แสดงถึงการเน้นตอบสนองลูกค้าในกลุ่ม HORECA

การแข่งขันกับ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) เข้มข้นมากขึ้น CRC มีแผนจะเปิดสาขา Go Wholesale 43 ร้านในช่วงปี 2566-2571 (4 ร้านในปี 2566, 7 ร้านในปี 2567 และที่เหลือในปี 2568 -2571) ผู้บริหารบอกว่าภายในสิ้นปี 2568 ร้าน Go Wholesale น่าจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBITDA และจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBIT ภายในปี 2569

ทั้งนี้ การที่บริษัทมีแผนจะเร่งเปิดสาขาร้าน Go Wholesale อย่างรวดเร็ว น่าจะทำให้การแข่งขันกับธุรกิจขายส่งของ CPAXT ซึ่งตั้งเป้าลูกค้ากลุ่ม HORECA เหมือนกันมีความเข้มขึ้นมากขึ้น แม้ว่า CPAXT จะตั้งเป้าร้านค้าปลีกขนาดเล็กด้วยก็ตาม ทั้งนี้ สำหรับ CRC เรามองว่าผลขาดทุนในช่วงต้นของ Go Wholesale จะกดให้อัตราการเติบโตกำไรของ CRC อยู่ในระดับปานกลางในอีกสองสามปีข้างหน้า

Recommendation BB consensus ประเมินราคเป้าหมายที่ 49.67 บาท เราคิดว่า Go Wholesale น่าจะเป็นบวกกับ CRC ในระยะยาว แม้ว่าบริษัทจะต้องแบกผลขาดทุนไปก่อนในช่วงสองสามปีแรก เรายังไม่มีคำแนะนำสหรับ CRC แต่มีโบรกเกอร์ 20 แห่งจาก 23 แห่งที่แนะนำซื้อ โดยมี 3 แห่งที่แนะนำ “ถือ”

ส่วน บล.พาย ระบุว่า หลังจากเข้าเยี่ยมชม Go Wholesale เราเชื่อว่าหน่วยธุรกิจนี้จะกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตตัวใหม่สำหรับธุรกิจค่าปลีกอาหารของ CRC ด้วย 3 ปัจจัย ดังนี้ 1) เป็นหน่วยธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าอาหารสดที่หลากหลายพร้อมกับบริการที่ปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า 2) มีแพลตฟอร์มที่ทำงานร่วมกันกับ The 1 Card และ 3) มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเงินสด การจ่ายผ่าน QR code บัตรเครดิต เครดิตเทอม และ Alipay

ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจ B2B ของ CRC นั้นคิดเป็น 17% ของรายได้รวม ซึ่งหลัก ๆ มาจากไทวัสดุ โดยบริษัทตั้งเป้ากระตุ้นรายได้ B2B เป็น 25%-30% ภายในปี ค.ศ.2028 ซึ่งจะมีแรงหนุนหลักมาจาก Go Wholesale ด้วยเหตุนี้เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 49.00 บาท

ธุรกิจ GO Wholesale มีภาพรวมเป็นบวก จากการเข้าเยี่ยมชมกิจการ Go Wholesale สาขาแรก เป็นธุรกิจขายส่งที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มโรงแรมร้านอาหาร, จัดเลี้ยง (HoReCa) กลุ่มค้าปลีกอาหาร กลุ่มบริการ และกลุ่มที่ชื่นชอบการทำอาหารทั่วประเทศ ทั้งลูกค้า B2B และ B2C สามารถเป็นสมัครเป็นสมาชิกร้าน Go Wholesaleโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปัจจุบัน Go wholesale มีจำนวนสมาชิกมากกว่า30,000 รายแล้วหลังจากเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา สาขาแรกมีพื้นที่ค้าปลีก 7,000 ตร.ม. จำหน่ายสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าอาหารสดและเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่มาจากทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มที่เชียงใหม่ พ.ย.66 จากนั้นเปิดใน นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ในชลบุรี และพัทยาใต้ภายในเดือน ธ.ค. และตั้งเป้าที่จะขยายอีก 7 สาขาภายในปีหน้า ขณะที่มีเป้าหมายขยายเพิ่มเป็น 43 สาขาในเมืองใหญ่ภายใน 5 ปี ด้วยงบลงทุนทั้งหมดที่ 2 หมื่นล้านบาท บริษัทมีเป้าหมายสัดส่วนรายได้ 50% จากกลุ่มสินค้าอาหารสด 35% จากสินค้าอาหารแห้ง และ 15% จากสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร จึงชี้เป็นนัยว่า Go Wholesale จะเน้นสินค้าอาหารสดที่จับกลุ่ม HoReCe มากกว่ากลุ่มลูกค้าร้านชำ เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจนี่จะใช้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเซ็นทรัลที่ดำเนินกิจการศูนย์การค้า 110 โครงการที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100

จังหวัดในไทยและเวียดนามรวมกัน บวกกับเกรือข่ายร้านอาหารกว่า 6,750 แห่งและโรงแรม 93 แห่ง ยิ่งกว่านั้น แนวทางดังกล่าวน่าจะช่วยเลี่ยงสงครามด้านราคาในตลาดขายส่งได้ เพราะหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของกลุ่มร้านขายส่งขนาดใหญ่มาจากร้านค้าปลีกของชำที่มีความต้องการในสินค้าอาหารแห้ง

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล CEO กลุ่ม Central Food Wholesales ระบุว่า ตลาดอาหารในประเทศไทยมีมูลค่าราว 2.6 ล้านล้านบาท และมีคารเติบโตต่อปีราว 5% ซึ่งสูงกว่าการเตินโตของ G.P ประเทศไทย ทำให้เราเชื่อว่าตลาดอาหารที่เติบโตขึ้นจะชดเชยผลกระทบจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดขายส่งได้ เพราะเป้าหมายรายได้ของ CRC สำหรับธุรกิจ Go Wholesale ที่ 6.0-7.0 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้านั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.3%-2.7% ต่อมูลค่าตลาดอาหารทั้งหมดในไทย

เราประเมินว่าธุรกิจอาหารของ CRC จะแตะ 1.61 แสนล้านบาทหรือโตเฉลี่ยต่อปี 11.6% ในช่วงปี 66-71 และคิดเป็นสัดส่วน 47% ของรายได้รวมในปี 71 เพิ่มขึ้นจาก 39% ของรายได้รวมในปี 65 แนะนำ “ซื้อ” แต่ตลาดตอบสนองต่อธุรกิจใหม่ของ CRC แรงเกินไป มูลค่าพื้นฐาน 49.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 8. 2%,TC 2.5%) อิง 35xPE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top