SET ปิดวันนี้ที่ 1,419.76 จุด เพิ่มขึ้น 15.77 จุด (+1.12%) มูลค่าซื้อขาย 45,779.45 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเนื่อง หลัง FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณ Dovish พอสมควร สอดคล้องบอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง รวมทั้ง Dollar Index อ่อนค่าลงมา ซึ่งเป็นการเปิด earning yield gap ให้กว้างขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจในการลงทุน และมองว่า SET มีโอกาสปรับฐานขึ้นอยู่บริเวณ P/E 15 หรือ 16 เท่า ขณะที่ระยะสั้นมองว่าหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์มากที่สุด แนะนำหุ้น BCPG, BPP และ EGCO แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดปรับตัวขึ้นต่อ คืนนี้ติดตามทางการสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. รวมทั้งในช่วงกลางสัปดาห์จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขดุลการค้าของจีน ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีตามคาด คาดว่าจะหนุนให้ SET กลับไปยืนเหนือ 1,440 จุดได้ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,415 จุดและแนวต้าน 1,460 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,419.76 จุด เพิ่มขึ้น 15.77 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 45,779.45 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวบวก โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,424.66 จุด ทำจุดต่ำสุด 1,410.04 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 395 หลักทรัพย์ ลดลง 112 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเนื่อง จากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณ Dovish ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลดลง รวมทั้ง Dollar Index อ่อนค่าลงมาบ้าง ซึ่งเป็นการเปิด earning yield gap ให้กว้างขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจในการลงทุน
พร้อมมองว่า SET มีโอกาสปรับฐานขึ้น อยู่บริเวณ P/E 15 หรือ 16 เท่า และคาดว่ากรอบในช่วง 1 เดือนข้างหน้าจะเห็นดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 1,440 – 1,580 จุด ในขณะที่ระยะสั้นมองว่าหุ้นในกลุ่มไฟฟ้าจะได้ประโยชน์มากที่สุด จากการที่ดัชนีปรับขึ้นในรอบนี้ หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าวปรับตัวลงค่อนข้างมาก โดยแนะนำหุ้น BCPG , BPP และ EGCO
นายเบญจพล กล่าวว่า คืนนี้ทางการสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. รวมทั้งในช่วงกลางสัปดาห์จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขดุลการค้าของจีน ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีตามคาด คาดว่าจะหนุนให้ SET กลับไปยืนเหนือ 1,440 จุดได้
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,415 จุด และแนวต้าน 1,460 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,153.49 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,737.67 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,638.24 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,544.34 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,492.85 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย