หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อตามภูมิภาค รับบอนด์ยีลด์ชะลอลง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อตามภูมิภาคเอเชีย รับบอนด์ยีลด์ลงต่อเนื่อง หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด หนุนเชื่อมั่นเฟดยุติขึ้นดอกเบี้ย และนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในคืนวันนี้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาสู่ระดับ 4.66% ต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย ตอกย้ำความมั่นใจของตลาดที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

ทั้งนี้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.88 แสนตำแหน่ง หากออกมาตามคาด หรือไม่เกิน 2 แสนตำแหน่ง จะหนุนการฟื้นตัวของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ให้แนวรับไว้ที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,839.08 จุด เพิ่มขึ้น 564.50 จุด หรือ +1.70%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,317.78 จุด เพิ่มขึ้น 79.92 จุด หรือ +1.89% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,294.19 จุด เพิ่มขึ้น 232.72 จุด หรือ +1.78%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,405.91 จุด เพิ่มขึ้น 175.32 จุด หรือ +1.02% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,012.47 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด หรือ +0.10% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (3 พ.ย.) เนื่องในวันแห่งวัฒนธรรม

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 พ.ย.66) 1,403.99 จุด เพิ่มขึ้น 24.03 จุด (+1.74%) มูลค่าซื้อขาย 44,380.64 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,291.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.(2 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 82.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 พ.ย.) อยู่ที่ 3.83 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.93 ทรงตัวจากปิดวานนี้ จับตาข้อมูลศก.สหรัฐ

– “สงคราม-เอลนีโญ” ฉุดเศรษฐกิจโลกปี 2567 รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่ 4 ล้านล้านบาท หลังจีนคลอดแผนกระตุ้นครั้งใหญ่ไปแล้ว “ภูมิธรรม” นัดหารือทูตพาณิชย์ดันส่งออกปีหน้า สรท.ห่วงผลกระทบเศรษฐกิจโลกลามถึงส่งออกไทย ขอรัฐเร่งทำเอฟทีเอสร้างแต้มต่อ ‘ทีทีบี’ คาดส่งออกปีหน้าโต 3% จากปีนี้ติดลบ 1.1% ห่วงเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอ

– “หุ้นไอพีโอ” อาการยังสาหัส หลังหลายบริษัทเทรดวันแรก “ราคาต่ำจอง” ฟาก “ที่ปรึกษาการเงิน” ประสานเสียงยังไม่ใช่จังหวะเหมาะสมขายหุ้น ลั่นรอดูตลาดภาพใหญ่ฟื้น ชี้มีโอกาส “เลื่อนขายหุ้น” ปีหน้า หวังนักลงทุนกลับมา เชื่อมั่นลงทุน

– ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้เห็นชอบปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินครั้งนี้ มีผล 7 พ.ย.66-31 ม.ค.67 โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร, น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 และอี 85 ลดลงลิตรละ 80 สตางค์ เป็นไปตามมติ ครม.

– ททท.เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ขอปรับเพิ่มรายได้รวมการท่องเที่ยวปี 67 เป็น 3.5 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายปัจจุบัน 3 ล้านล้านบาท เท่ากับปี 62 ก่อนโควิด-19 ระบาด ด้วยการเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น เมื่อ ททท.พิจารณาสัดส่วนรายได้ระหว่างตลาดในประเทศและต่างประเทศแล้ว เท่ากับว่าปีหน้าจะต้องสร้างรายได้ตลาดต่างประเทศ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มจากเป้าหมายปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ปูสู่เป้าหมายรายได้ตลาดต่างประเทศ 3 ล้านล้านบาทในอนาคต ตามนโยบายของนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนรายได้ตลาดในประเทศ ยังคงเป้าเท่าเดิมที่ 1 ล้านล้านบาท

– “สุริยะ” เตรียมใช้เวทีเอเปกสหรัฐอเมริกา 11-17 พ.ย.นี้ ประเดิมโรดโชว์แลนด์บริดจ์ หวังดึงต่างชาติร่วมลงทุน บิ๊กโปรเจกต์ 1 ล้านล้านบาท พร้อมดัน พ.ร.บ.พัฒนาพื้นที่พิเศษภาคใต้แล้วเสร็จในปี 67

หุ้นเด่นวันนี้

– CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 82 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/66 ที่ 4 พันล้านบาท +11%q-q +41%y-y ได้แรงหนุนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยมีเพียงโรงแรม GO! Hotel ศรีราชา ชลบุรี ที่เปิดเพิ่ม ส่วนศูนย์การค้ายัง 38 เท่าเดิม + Community malls 17 แห่ง รายได้ดีขึ้นทุกธุรกิจ Traffic ของศูนย์การค้าเพิ่มต่อเนื่อง แต่ที่โดดเด่นคืออสังหาฯ จากการโอนโครงการที่อยุธยา หาดใหญ่ ภูเก็ต ทำให้คาดว่ารายได้จาก Residential +88% q-q +20%y-y เราคาดกำไรในปี 2566-2568 เติบโต 39%/ 6%/ 5% ตามลำดับ รองรับด้วยแผนการลงทุน 1.35 แสนล้านบาทในช่วงปี 2566-2570

– XO (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 33.00 บาท กำไรสุทธิงวด 1H66 อยู่ที่ 309 ลบ.,+63%YoY การเติบโตหลักๆของกำไรมาตามรายได้ที่สูงขึ้นของสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆในยุโรปและอเมริกา สำหรับการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/66 นี้ คาดว่ายังจะมีแรงหนุนจากสถาวะขาดแคลนซอสพริกศรีราชาในอเมริกา โดยจากสถิติการค้าระหว่างประเทศ ตัวเลขส่งออก ไตรมาส 3/66 ซอสพริกที่ส่งออกไปทวีปอเมริกาเหนือ +233%YoY +112%QoQ ด้านผู้บริหารวางเป้าการเติบโตของยอดขายปีนี้สูงกว่าเป้าที่+30% ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 66 และ ปี67 XO ที่ 636 ลบ.(+87%YoY) และ 709 ลบ.(+11%YoY)

– TOP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 เด่นที่ 10,047 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากไตรมาส 2/66 ที่ 1,117 และ 3Q22 ที่ 12 ล้านบาท ขานรับค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ดี แม้อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วก็ตาม ขณะที่ Valuation ปัจจุบันไม่แพง โดยยังคงเทรดเพียงระดับ PBV 0.64 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังในอดีตที่ 0.8 เท่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top