นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นประธานการประชุม กอ.รมน. พร้อมมอบนโยบายในการทำงานในอนาคต โดยเน้นย้ำเรื่องเพิ่มบทบาท กอ.รมน. สร้างความพร้อมให้กับคนไทย โดยเฉพาะความมั่นคงในการใช้ชีวิตและทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น และเน้นย้ำกองทัพจะต้องช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมบูรณาการเข้าสนับสนุน เครื่องมือทางกองทัพ และช่วยราชการต่างๆ ปกป้องประชาชนเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม และต้องช่วยกันพัฒนาในเชิงรุกให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การหารือกันวันนี้ไม่มีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการยุบเลิก กอ.รมน.เลย วันนี้บริบทการทำงานของ กอ.รมน.ก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยมีการคุยกันเรื่องการพัฒนาและการลดช่องว่างระหว่างกองทัพกับประชาชนให้ลดน้อยลง เช่น โครงการมอบที่ดินให้กับประชาชนที่หนองวัวซอก็จะขยายไปในพื้นที่อื่นด้วย พร้อมขอให้ดูด้วยว่า การมอบที่ดินไปแล้วหากไม่มีแหล่งน้ำก็ต้องดูเรื่องระบบชลประทานด้วย เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ อีกทั้งยังมีเรื่องของปัญหาภัยแล้งด้วย
“อะไรที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน.ไม่ได้อยู่ในความคิดของรัฐบาลนี้ ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจและไม่ได้อยู่ในนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ แม้แต่น้อย” นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญที่มีการพูดคุยตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่อยากให้ทางกองทัพได้ช่วยเหลือ ซึ่งภายใน 2 เดือนก็เห็นเป็นรูปธรรม คือ ความยากจนและที่ดินทำกิน โดยนำพื้นที่ว่างเปล่าที่เกินความจำเป็นของกองทัพ ให้ประชาชนได้ทำประโยชน์ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตร โดยกองทัพกำหนดมอบ “โครงการหนองวัวซอโมเดล” ซึ่งมีเนื้อที่รวม 9,276 ไร่ ถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคม 2566 โดยถือเป็นของขวัญปีใหม่จากกองทัพไทยให้กับประชาชนและหวังว่าโครงการนี้จะขยายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ด้วย
นอกจากนี้ ได้มีการหารือเรื่องปัญหา PM2.5 เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปัญหานี้แล้ว โดยเห็นว่า กอ.รมน.มีทีมงานร่วมกับนักวิชาการเกษตรในการเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้มีมูลค่า แทนที่จะถูกเผาก่อให้เกิดฝุ่นพิษ จึงอยากขอให้ขยายผลอย่างจริงจัง และขอให้ส่วนราชการต่างๆสนับสนุน เพื่อคืนอากาศสะอาด คืนคุณภาพชีวิต คืนศักดิ์ศรี และสุขภาพที่ดีต่อคนไทยทุกคน
ด้านนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ลดบทบาทการทำงานของ กอ.รมน. ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่า ควรมีการปรับภารกิจที่ซ้ำซ้อนให้มาสนับสนุนด้านความมั่นคงของประเทศ ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและคุณภาพชีวิต เพราะที่ผ่านมาไปเน้นเรื่องความมั่นคงทางทหาร หรือเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างเดียว
ส่วนที่มีการโจมตีว่า กอ.รมน.เป็นส่วนหนึ่งช่วยพรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้งนั้น ในบางยุคอาจจะใช่ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้นำประเทศ ถ้าใช้เป็นก็เป็นประโยชน์ แต่ผู้นำบางยุคเอาเข้าไปเป็นการเมือง ซึ่งผู้นำที่ดีต่อจากนี้อย่าไปเอา กอ.รมน.มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง จะทำให้คนมอง กอ.รมน.ไม่ดี และตนก็จะมีการเสนอแนะในฐานะ รมว.กลาโหม ที่เป็นแกนหลัก กอ.รมน.
ที่ผ่านมาภารกิจที่มอบให้ กอ.รมน.บางยุคทำให้เกิดความหวาดระแวง มีผลต่อการสร้างความสงบ ต่อไปนี้ตนได้กำชับทางกระทรวงกลาโหมให้ระมัดระวังเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่อง IO ซึ่งตนบอกว่า IO สามารถทำได้แต่ควรเป็นในเชิงสร้างสรรค์ ที่ทำให้เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อประเทศ ต่อกองทัพ แต่ถ้า IO เชิงทำร้าย ด้อยค่า หรือขยายความขัดแย้ง ตนกำชับว่าอย่าทำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 66)
Tags: กอ.รมน., เศรษฐา ทวีสิน