กระทรวงการต่างประเทศของไทยออกแถลงการณ์ต่อกรณีที่คนไทยถูกสังหารอย่างไร้มนุษยธรรม ถูกทำร้าย และถูกจับเป็นตัวประกันในสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล-กาซา โดยไม่เห็นด้วยต่อกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปภาพของเหยื่อโดยไม่คำนึงถึงและไม่เคารพผู้เสียชีวิตและครอบครัว พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้ชาวไทยเดินทางกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุบนเว็บไซต์เมื่อวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ว่า “ตามที่เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมสหประชาชาติได้มีการแสดงคลิปภาพของเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด โดยอ้างว่าเป็นคนไทยนั้น ภาพการสังหารดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะต่อประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่ต่อคนทั่วโลกด้วย
กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นรายงานคลิปภาพของเหยื่อ และไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพที่ไม่คำนึงถึงและไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว
กระทรวงการต่างประเทศประณามการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะกระทำต่อคนชาติใด โดยฝ่ายใด และด้วยเหตุผลใดก็ตามกระทรวงต่างประเทศเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่มีพี่น้องคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบนี้แล้วถึง 32 คน บาดเจ็บ 19 คน และถูกจับไป 19 คน (ตัวเลขสถานะคืนวันที่ 28 ตุลาคม 2566) และขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกสัญชาติทุกคนในทันที”
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของไทยระบุด้วยว่า ขณะนี้กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบที่รุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อกระบวนการอพยพอย่างมีนัยสำคัญ
“รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องคนไทยในอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง และขอเรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอล เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด และขอเชิญชวนให้ญาติพี่น้องที่อยู่ในประเทศไทย ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังตัดสินใจอยู่ในอิสราเอล พิจารณาเปลี่ยนใจกลับประเทศโดยเร็วที่สุด” กระทรวงต่างประเทศของไทยระบุ
ทั้งนี้ ท่านที่ประสงค์จะเดินทางกลับ สามารถแจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันทีที่:
รร. David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501
โทรศัพท์ศูนย์พักพิง : 050-443 8094, 053-557-4115
โทรศัพท์สถานทูตฯ : 055-271 2201, 053-245 2826, 054-636 8150
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 66)
Tags: กระทรวงการต่างประเทศ, อิสราเอล