พาณิชย์ ท้วงสอน.เบรกขึ้นราคาน้ำตาล ไม่ควรผลักภาระให้ผู้บริโภค

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) จะพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานกิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท ว่า กรมฯ ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ในฐานะกำกับดูแลสินค้าน้ำตาลทราย โดยเห็นว่า การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย ไม่ควรใช้เหตุผลปรับขึ้นเพื่อให้เท่ากับราคาน้ำตาลทรายตลาดโลก ที่ปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 26.50 บาท เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายรายใหญ่ ไม่ได้เป็นสินค้าที่ต้องนำเข้าเหมือนปุ๋ยเคมี หรือน้ำมัน ดังนั้น คนไทยไม่ควรต้องรับภาระซื้อน้ำตาลรายเท่ากับราคาตลาดโลก

ทั้งนี้ แต่ละปีไทยมีผลผลิตประมาณ 10 ล้านตัน บริโภคในประเทศทั้งใช้ในอุตสาหกรรมและครัวเรือน 2.5 ล้านตัน เหลือส่งออก 7.5 ล้านตัน จึงต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค และผลกระทบเกี่ยวเนื่องจากการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายด้วย

นอกจากนี้ ยังให้ความเห็นอีกว่า การปรับขึ้นราคากก.ละ 4 บาท แบ่งเป็น ปรับขึ้นตามต้นทุนกก.ละ 2 บาท และนำเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกก.ละ 2 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตัดอ้อยสดโดยไม่เผา และลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 นั้น เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค ควรเสนอของบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะเหมาะสมกว่าผลักภาระให้ประชาชน

สำหรับผลกระทบต่อการผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม ขนมหวาน ขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากยังไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย แต่ถ้าต่อไปมีการปรับขึ้นราคาจริง ก็จะพิจารณาต้นทุนอย่างเหมาะสม และดูต้นทุนอื่นๆ ประกอบด้วย เพราะแม้น้ำตาลทรายจะปรับขึ้นราคา แต่ต้นทุนอื่นอาจลดลง และโดยรวมแล้วผู้ผลิตอาจจะไม่มีผลกระทบเลยก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ กรมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการจำหน่ายน้ำตาลทรายอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในห้างค้าส่งค้าปลีก พบว่าราคายังเป็นปกติ ปริมาณมีเพียงพอ โดยราคาขายปลีกอยู่ที่กก.ละ 24-25 บาท ส่วนร้านค้าทั่วไป อาจสูงกว่านี้เล็กน้อย แล้วแต่ช่วงการค้า ที่อาจจะรับมาหลายต่อ หรือขึ้นอยู่กับการขนส่งใกล้ไกล

“จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาจากข่าวที่เตรียมจะปรับขึ้นราคา เพราะขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปรับขึ้นเท่าไร อย่างไร โดยจากที่ตรวจสอบดูประกาศราคาหน้าโรงงาน ที่ออกมาตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. ยังไม่มีเปลี่ยนแปลง ยังคงราคาเดิมกก.ละ 19-20 บาท แต่หากพบเห็นการฉวยโอกาส ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ร.ต.จักรา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top