บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 4.39 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 3.63 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 3.415 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.356 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้ในไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 23% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564
ยอดผู้ใช้งานรายวัน (DAUs) อยู่ที่ 2.09 พันล้านราย มากกว่าตัวเลขการคาดการณ์ที่ระดับ 2.07 พันล้านราย และยอดผู้ใช้งานรายเดือน (MAUs) อยู่ที่ 3.05 พันล้านราย สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.05 พันล้านราย
ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU) อยู่ที่ระดับ 11.23 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 11.05 ดอลลาร์
ในช่วงแรกนั้น ราคาหุ้นเมตาปรับตัวขึ้นในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้หลังจากเมตาเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาด แต่ราคาหุ้นดิ่งลงกว่า 3% ในเวลาต่อมา หลังจากนางซูซาน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินได้แสดงมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 อันเนื่องมาจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ นางลีกล่าวว่า การค้าออนไลน์เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อการเติบโตของรายได้จากการโฆษณาของเมตา รองลงมาคือสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน และเกม อย่างไรก็ดี นางลีกล่าวว่า เมตาได้ขยายกรอบการคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ให้กว้างขึ้น เนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสทำให้ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ในตะวันออกกลางได้
เมตาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4 จะอยู่ในช่วง 3.65-4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.885 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ธุรกิจในแผนกเรียลลิตี้ แลบส์ (Reality Labs) ซึ่งเป็นแผนกที่เมตาสร้างขึ้นเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์เมตาเวิร์ส มียอดขาดทุนจากการดำเนินงานสูงถึง 3.74 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และคาดว่าธุรกิจในแผนกนี้จะขาดทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอีกอย่างมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 66)
Tags: เมตา, เมตา แพลตฟอร์มส์