กระดาน LiVEx เคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อ บมจ.เดอะ พรอดดิจี (ประเทศไทย) หรือ PDIGY23 ผู้ให้บริการงานด้านสารสนเทศ เน้น IT Outsourcing เล็งเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 3 ล้านหุ้น ใช้เสริมทัพบุคลากร IT คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) นับเป็นตัวแรกของปีนี้ !!
“ส่วนตัวสมัยเด็ก ๆ มาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีความพร้อมเรื่องฐานะการเงิน ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าไม่มีรองเท้าใส่เหมือนเพื่อนเขา พอวันที่เราตั้งใจทำงาน เดินตามความฝัน สิ่งแรกที่ทำคือเก็บเงินซื้อรองเท้าส้นสูง ดังนั้นเลยตั้งใจว่าเราจะเป็นผู้นำหญิงสายเทค ที่ใส่รองเท้าส้นสูงนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์” นางสาวขวัญตา สุดแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PDIGY เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า
PDIGY ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา-แนะนำและให้บริการด้านพัฒนางานสารสนเทศ โดยปัจจุบันลูกค้าหลักอยู่ในกลุ่มภาคการเงินและประกันภัย ซึ่งบริษัทจะส่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางตามลักษณะงานที่ลูกค้าต้องการ และแบ่งโครงสร้างรายได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1)การจัดหาและบริหารบุคคลากรชั่วคราว ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) ซึ่งนับเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทราว 97% และ 2) การให้คำปรึกษาและการพัฒนาโครงการสารสนเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินงานเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าร่วมปฏิบัติงาน (IT Implementation & Consulting)
เงินระดมทุนที่ได้หลัก ๆ คือจะนำไปใช้เพื่อขยายทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและเงินส่วนที่เหลือใช้เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการหลังบ้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท
“ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน เรามีพนักงานสายเทคโนโลยีอยู่ที่ 150 คน เราคาดว่าภายในปลายปีนี้จะเพิ่มเป็น 200 คน และในปี 67 หลังจากที่ได้รับเงินระดมทุนแล้ว ตัวเลขของพนักงานสายเทคโนโลยีจะกระโดดไปที่ 350 – 400 คน” นางสาวขวัญตากล่าว
ส่วนแผนธุรกิจระยะยาว เรายังคงโฟกัสงานด้านเทคฯ 100% และตั้งเป้าว่าจะก้าวเข้าสู่ตลาด mai ภายในปี 69 แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ เราจะค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนรายได้ส่วน IT Implementation & Consulting ขึ้นมา ซึ่งเป็นการดูแลโปรเจคท์ของลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างในปี 67 คาดว่าสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะแบ่งเป็น รายได้จาก IT Implementation & Consulting ที่ 10% และ IT Outsourcing ที่ 90%
“เราคาดว่าการณ์ว่าในปี 69 เม็ดเงินที่บริษัทในเมืองไทยจะลงทุนเรื่องเทคโนโลยีหลังบ้านจะอยู่ที่ประมาณเกือบแสนล้านบาท เราก็เลยมองเห็นช่องทางตรงนี้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
ขณะที่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทก็เริ่มให้บริการลูกค้าใหม่ ๆ ในกลุ่ม Non-Finance เช่น ค้าปลีก , FMCG หรือ Oil&Gas ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทุนเรื่องเทคโนโลยีค่อนข้างสูงหลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิดมา และการเข้าไปหาลูกค้าใหม่เหล่านี้พบว่ามีฟีดแบคที่ดี เพราะลูกค้าเห็นว่าเราเคยทำงานให้กลุ่มที่เป็นภาคการเงินและประกันภัยซึ่งเป็นงานที่มีความสลับซับซ้อนและเน้นความปลอดภัยค่อนข้างสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 66)
Tags: INTERVIEW, LiVE The Series, LiVEx, PDIGY23, SCOOP, ขวัญตา สุดแสง, ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์, รองเท้าส้นสูง, เดอะ พรอดดิจี