น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบประมาณ 2567 รวมจำนวน 8,268 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ขสมก.ได้เสนอขออนุมัติการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ มีมติเห็นชอบแล้วในคราวประชุมครั้งที่ 18/2565 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ขสมก. ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุน และไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง ทำให้ ขสมก. ยังมีหนี้สินค้างชำระรวมทั้งสิ้น 136,602 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 ก.ย.65)
2. ขสมก. ได้จัดทำประมาณการเงินสดรับ-จ่าย ในปีงบฯ 67 คาดว่าจะมีเงินสดคงเหลือปลายงวดขาดมือ จำนวน 23,635 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถทำให้องค์กรบริหารจัดการต่อไปได้
ขสมก. จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน 23,635 ล้านบาทดังกล่าว โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้ จำนวน 15,366 ล้านบาท ซึ่ง ขสมก. ได้นำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อบรรจุเข้าแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบฯ 67 แล้ว จึงคงเหลือเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานของ ขสมก. ในปีงบฯ 67 (ต.ค.66 – ก.ย.67) จำนวน 8,268 ล้านบาท
โดยขสมก. พิจารณาแล้วเห็นว่า หาก ขสมก. กู้เงินมาชำระหนี้ (แทนการผิดนัดชำระหนี้) จะจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 1.188% (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตั้งแต่ 1 ต.ค.64 – 30 ก.ย.65) หรือปีละ 51.273 ล้านบาท ซึ่งทำให้ ขสมก. สามารถประหยัดค่าดอกเบี้ยค้างชำระลงได้ปีละ 221.124 ล้านบาท หรือ 81.177% ต่อปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 66)
Tags: ขสมก., ชัย วัชรงค์, ประชุมครม., มติคณะรัฐมนตรี, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ