ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.33 แสนล้านหยวน (1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้ โดยดำเนินการผ่านทางสัญญาซื้อคืน (reverse repurchase contracts) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินระยะสั้นของจีน และการดำเนินการดังกล่าวบ่งชี้ว่าจีนมีเป้าหมายที่จะรักษาต้นทุนการกู้ยืมให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ PBOC ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% ในวันนี้เช่นกัน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า PBOC จะคงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภท หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2.50% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.)
ทางการจีนมองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนี้จะช่วยให้จีนสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ในปีนี้ได้ โดยการดำเนินการล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่จีนเปิดเผยข้อมูลที่ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจขยายตัว 4.6%
ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของจีนปรับตัวขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 4.3% และยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 4.9%
มิเชล แลม นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโซซิเอเต้ เจเนเรล คาดการณ์ว่า PBOC อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.10% ภายในสิ้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 66)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจ, จีน, ทุนกู้ยืม, ธนาคารกลางจีน, ลดต้นทุน