นายมาร์ก เมกพีซ อดีตประธานฟุตซี่ รัสเซลล์ (FTSE Russell) บริษัทจัดทำดัชนีหุ้นของอังกฤษ มองว่า จีนอาจยังคงประสบความผันผวนของตลาดอยู่บ้าง แต่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดนั้นได้ผ่านไปแล้ว
นาย เมกพีซ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทวิลเชอร์ อินเด็กซ์ (Wilshire Indexes) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Street Signs Asia” ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นบีซีในวันนี้ (17 ต.ค.) ว่า “จีนประสบความสำเร็จ และจะกลายเป็นแหล่งการลงทุนที่สำคัญในอนาคต แต่ในระยะสั้น จีนได้เผชิญปัญหาบางประการ เราจะไม่ได้เห็นการเติบโตของตลาดเหมือนในอดีต แต่จีนยังคงมีศักยภาพอยู่”
นายเมกพีซมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อตลาดจีนและฮ่องกง และมั่นใจว่าตลาดเหล่านี้จะเติบโตต่อไป พร้อมกล่าวเสริมว่า จีนจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาลและความกระตือรือร้นที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
จีนมีแนวโน้มจะรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับไตรมาส 3/2566 ในวันพุธ (18 ต.ค.) ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า GDP ในไตรมาส 3/2566 จะขยายตัวที่ 4.4%
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ที่ระดับ 2.50% เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของจีนยังคงต้องรับมือกับปัญหาที่ยืดเยื้อ ซึ่งรวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และอุปสงค์ผลิตภัณฑ์จีนที่อ่อนแอลงทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
ขณะนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน โดยจีนเตรียมรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 66)
Tags: จีน, เศรษฐกิจจีน