นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวต้อนรับ แรงงานไทยทั้ง 90 คนที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอลว่า ในนามรัฐบาลไทยดีใจที่ทุกคนกลับมาถึงประเทศเรียบร้อย ขณะนี้เรากำลังเร่งช่วยเหลือคนไทยอีกเกือบ 7,000 คนที่แจ้งความประสงค์เดินทางกลับไว้ รวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับตัวอยู่ ทั้งนี้ในนามรัฐบาลไทยโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แสดงความห่วงใยกับชาวแรงงานทุกคน เพราะทุกท่านสร้างคุณูปการ เพราะเป็นกำลังหลักส่วนหนึ่งให้กับประเทศไทย ในการช่วยพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้ได้รับรายงานว่ามีตัวเลขคนไทยเสียชีวิตเพิ่มโดยขณะนี้มีคนไทยเสียชีวิตแล้ว 28 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตทางการอิสราเอล จะทำการชดเชยให้โดยจะดูแลภรรยาผู้เสียชีวิตโดยมอบเงินไม่ให้เดือนละประมาณ 35,000 บาทจนกว่าจะภรรยาจะแต่งงานใหม่หรือมีสามี และมอบให้บุตรเดือนละประมาณ 11,000 บาทจนกว่าอายุ 18 ปี
โดยขณะนี้กองทัพอากาศไทย ก็ได้ส่งเครื่องบินไปช่วยเหลือแล้ว รวมถึงจะมีเครื่องบินพาณิชย์ไปรับกลับมา ซึ่งหลังจากนี้ก็คาดว่าจะมีแรงงานไทยเดินทางมาไม่น้อยกว่าวันละ 200 – 400 คน หวังว่าจะสามารถนำกลับมาสู่ประเทศไทยอย่างปลอดภัยให้มากที่สุด ส่วนคนที่ยังไม่กลับมาตอนนี้ หากอนาคตเกิดวิกฤตจริงๆ ก็จะต้องนำกลับมาทั้งหมด
ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถนำคนไทยที่ลงทะเบียนไว้กว่า 7,000 คนกลับมาได้ทั้งหมดภายในเวลาต้นเดือนหน้า
ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และอยู่ในความคุ้มครอง เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย ทางกระทรวงแรงงานมีการดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ทันที รายละ 15,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสงเคราะห์ กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนครบสัญญาจ้างจากเหตุสงคราม หรือ กรณีทุพพลภาพ จะได้รับการสงเคราะห์ คนละ 30,000 บาท กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ สงเคราะห์จำนวน 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่าง ประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับสวัสดิการตามกฎหมายของประเทศอิสราเอล (ประกันการทำงาน + นายจ้างจ่าย) กรณีบาดเจ็บ/ พิการตามการรับรองของแพทย์ แบ่งเป็น บาดเจ็บ 10-19% ได้รับเงินก้อนเดียว ประมาณ 1,440,000 บาท บาดเจ็บเกิน 20% ได้รับเงินเดือนทุกเดือน จนกว่าจะเสียชีวิต โดยประเมินจากความสูญเสีย กรณีเสียชีวิตภรรยาและบุตร ได้รับเงินเดือนทุกเดือน จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ และบุตรอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ (ภรรยาเป็นเงิน 34,560 บาทต่อเดือน /บุตร เป็นเงิน 5,760-11,520 บาทต่อเดือน)
ส่วนความคืบหน้าของสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล จากรายงานของอัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ล่าสุดได้รับรายงานว่า มีแรงงานไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน จำนวน 17 ราย เสียชีวิต จำนวน 28 ราย (รอยืนยัน) บาดเจ็บ 16 ราย (ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ 1 ราย) กรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์การเดินทางกับทางสถานทูตฯ จำนวน 7,540 ราย จำแนกเป็น ผู้ที่ขอเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 7,446 ราย และ แจ้งความประสงค์ไม่ขอกลับ จำนวน 94 ราย และขณะนี้ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จำนวน 187 ราย
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลสุขภาพคนไทยที่อพยพกลับจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยพี่น้องคนไทยที่เดินทางกลับประเทศ ได้กำชับให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขดำเนินกระบวนการตรวจคัดกรองและประเมินอาการต่างๆ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้เกิดความสะดวกและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้คนไทยที่เดินทางกลับได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวโดยเร็วที่สุด รวมถึงหากมีอาการผิดปกติจะได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วและติดตามอาการอย่างต่อเนื่องด้วย โดยล่าสุด ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองว่า คนไทยชุดที่ 3 ได้เดินทางออกจากอิสราเอลมาถึงสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง แล้วเมื่อเช้านี้ เวลา 05.15 น. จำนวน 90 คน เป็นชาย 88 คน และหญิง 2 คน
นพ.สุรโชคกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 6 ชลบุรี กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค สนามบินอู่ตะเภา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ้านฉาง โรงพยาบาลบ้านฉาง โรงพยาบาลระยอง และศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 ชลบุรี ปฏิบัติงานร่วมกับการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการดำเนินการคัดกรองสุขภาพผู้เดินทาง โดยใช้เวลาในการคัดกรองประมาณ 1 ชั่วโมง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยรายแรกมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด ส่วนอีกรายปวดบวมที่มือขวาเล็กน้อยจากการหกล้ม ซึ่งทั้ง 2 รายได้รับการดูแลที่จุดปฐมพยาบาลที่จัดเตรียมไว้ในสนามบิน ภาพรวมถือว่าอาการดี สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้
สำหรับการประเมินคัดกรองด้านสุขภาพจิต ไม่พบผู้มีปัญหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้เดินทางขึ้นรถบัสจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังโรงแรม SC Park กรุงเทพฯ แล้ว จะมีทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT) จากสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ดำเนินการคัดกรองสุขภาพจิตอีกครั้งหนึ่ง ก่อนส่งเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาต่อไป สรุปผลการดูแลสุขภาพคนไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลทั้ง 3 ชุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย มีความเครียด 5 ราย นอนไม่หลับ 7 ราย พบจิตแพทย์ 2 ราย อาการตื่นตัวมากเกินไป 5 ราย และเจ็บคอ 1 ราย ทั้งหมดได้รับการดูแลและได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 66)
Tags: พิพัฒน์ รัชกิจประการ, อิสราเอล, แรงงานไทย