หุ้นไทยปิดลบ 5.24 จุดขายลดเสี่ยงรับวันหยุดยาว สัปดาห์หน้าเก็งงบฯแบงก์-จีนออกมาตรการกระตุ้นศก.

SET ปิดวันนี้ที่ 1,450.75 จุด ลดลง 5.24 จุด (-0.36%) มูลค่าซื้อขาย 36,895.02 ล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดภูมิภาค เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดยาวจึงมีแรงขายลดความเสี่ยง โดยมีแรงขายหุ้น Big Cap และกลุ่มพลังงานที่ร่วงตามราคาน้ำมันโลก พรุ่งนี้นักลงทุนรอตัวเลขส่งออกของจีน และจีดีพีในวันพุธหน้า แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดหวังเชิงบวกรับ Earning Season เล่นเก็งกำไรกลุ่มแบงก์ และ หุ้นเชื่อมโยงจีนลุ้นจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้แนวรับ 1,445 -1,440 จุด แนวต้านที่ 1,455-1,460 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,450.75 จุด ลดลง 5.24 จุด (-0.36%) มูลค่าซื้อขาย 36,895.02 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีอยู่ในแดนลบเกือบทั้งวัน โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,448.38 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,459.19 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 191 หลักทรัพย์ ลดลง 252 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 193 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพยื บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางกับตลาดภูมิภาค หลังพรุ่งนี้ติดวันหยุดยาวจึงมีแรงขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยง โดยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) และกลุ่มพลังงานปรับตัวลงจากราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) เป็นตัวเลขการส่งออกของจีน และในวันพุธหน้า (18 ต.ค.) จีนจะประกาศตัวเลขจีดีพี

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดหวังเชิงบวก เพราะจะเป็นช่วง Earning Season ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/66 ซึ่งงบ TISCO ออกมาใกล้เคียงกับคาด สัปดาห์หน้าเล่นเก็งกำไรงบกลุ่มแบงก์ และหุ้นเชื่อมโยงจีนที่คาดว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า

ให้แนวรับ 1,445 -1,440 จุด แนวต้านที่ 1,455-1,460 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,478.03 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

JMT มูลค่าการซื้อขาย 1,348.21 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง 2.75 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,341.16 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,276.26 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,191.84 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top