กลุ่มไฟแนนซ์บวกยกแผง รับบอนด์ยีลด์ชะลอ แนวโน้มกำไร Q3/66 โต

กลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นโดดเด่นตอบรับ Bond Yield เริ่มพักตัว หลังก่อนหน้ารับแรงกดดันจาก Bond Yield พุ่งขึ้น

เมื่อเวลา 10.29 น.

MTC ปรับขึ้น 5.48% หรือเพิ่มขึ้น 2.00 บาท มาที่ 38.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 276.51 ล้านบาท

SAWAD ปรับขึ้น 3.37% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 46.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 436.29 ล้านบาท

TIDLOR ปรับขึ้น 1.92% หรือเพิ่มขึ้น 0.40 บาท มาที่ 21.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 219.48 ล้านบาท

NCAP ปรับขึ้น 6.21% หรือเพิ่มขึ้น 0.18 บาท มาที่ 3.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 52.10 ล้านบาท

 

บล.หยวนต้า คาดว่ากลุ่ม Finance มีโอกาสรีบาวด์ได้ต่อ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond Yield) เริ่มพักตัวลง ส่งผลให้มีโอกาสเกิด Short Covering ในกลุ่มที่ก่อนหน้าปรับตัวลงจาก Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น

บล.หยวนต้า มองหุ้น บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) แนวโน้มกำไร ไตรมาส 3/66 คาดเติบโต YoY และ QoQ ที 1.3-1.4 พันลบ. จากการรวมงบการเงินของเงินสดทันใจแบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก และเริ่มเห็นการปรับขึนดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นของทั้งบมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) และ SAWAD เรามองว่าเป็นบวกต่อกลุ่ม Finance ช่วยให้ NIM มีเสถียรภาพ

บล.ฟินันเซีย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SAWAD คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 1.43 พันลบ. +25% q-q, +21% y-y จากดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนมากจากการควบรวม FM เต็ม 100% จากเดิมรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร ขณะที่คาดว่า Credit cost ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.67% ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 3.04% ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากมีรายการ One-time

คาดว่ากำไรสุทธิปี 2566-2568 จะโตต่อเนื่องถึง 18.5% ต่อปี CAGR จากการกลับสู่การเติบโตที่เป็นเชิงรุกมากยิ่งขึ้นของสินเชื่อทะเบียนสินทรัพย์ประเภทต่างๆ การควบรวมงบการเงินของ FM น่าจะให้ผลเชิงบวกตลอดปี และผลการดำเนินงานของ SCAP ซึ่งเราคาดว่าจะโตต่อเนื่องเป็นประมาณ 11% ต่อปี CAGR เราให้ราคาเป้าหมาย 51 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top