นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนยังไม่ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ยอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่ 29 ก.ย. – 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวไม่รวมวันที่ 6 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 8 หรือวันสุดท้ายของช่วงโกลเด้นวีค
คริสติน เผิง หัวหน้าฝ่ายผู้บริโภคประจำภูมิภาคเกรธเธอร์ ไชน่า ของยูบีเอส (UBS) คาดการณ์ว่า แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. แต่แนวโน้มยอดค้าปลีกหลายปีบ่งชี้ว่า อัตราการขยายตัวน้อยกว่า 3% ต่อปีนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด
นางเผิงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีทางโทรศัพท์เมื่อวันอังคาร (10 ต.ค.) ว่า “สิ่งที่เราจะบอกคือเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่มันจะค่อยเป็นค่อยไป” พร้อมเสริมว่า “ในปัจจุบัน การเติบโตของการบริโภคยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิดมาก”
ทั้งนี้ ตัวเลขทางการระบุว่า ยอดค้าปลีกของจีนลดลง 0.2% ในปี 2565 ขณะที่ยอดค้าปลีกในปี 2562 เพิ่มขึ้น 8%
นางเผิงกล่าวว่า ยูบีเอสคาดว่าการเติบโตของการบริโภคจะเพิ่มขึ้นเป็น 5% หรือ 6% ในช่วงสิ้นปี 2567 โดยระบุว่า ยอดค้าปลีกจะไม่มีทางกลับไปแตะ 9% ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ นางเผิงยังกล่าวถึงผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากความมั่งคั่งของครัวเรือนส่วนใหญ่อยู่ในอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการใช้จ่ายของรัฐบาลที่ลดลงอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้ในประเทศ พร้อมเสริมว่า ผู้บริโภคยังคงมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตท่ามกลางการคุมเข้มด้านกฎระเบียบของรัฐบาลจีน
นางเผิงระบุว่า “ผู้บริโภคเริ่มใช้จ่ายเงินมากขึ้น แต่ยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 66)
Tags: การบริโภค, การใช้จ่าย, จีน