รัฐบาลเล็งตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอ-แก้ปัญหาความเดือดร้อนกลุ่มพีมูฟ

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป

โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สรุปผลการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มพีมูฟ ซึ่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา และร่วมประชุมหารือกับตัวแทนกลุ่มพีมูฟ ที่เดินทางมาปักหลักชุมนุมเรียกร้องขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหา 10 ข้อ ดังนี้

1.ด้านสิทธิ เสรีภาพ และประชาธิปไตย 2.ด้านการกระจายอำนาจ 3.ด้านนโยบายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 4.ด้านนโยบายที่ดินและการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม 5.นโยบายการจัดการทรัพยากร 6.ด้านนโยบายป้องกันภัยพิบัติ 7.ด้านนโยบายการคุ้มครองชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ 8.ด้านนโยบายสิทธิ และสถานะบุคคล 9.ด้านนโยบายรัฐสวัสดิการ และ 10.ด้านที่อยู่อาศัย

นางรัดเกล้า ระบุว่า ครม.รับทราบให้ใช้กลไกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์) ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (นายชลธิศ สุรัสวดี) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายธนสาร ธรรมสอน) รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ที่ได้รับมอบหมาย อัยการสูงสุด ปลัดกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเป็นกรรมการ รวมทั้ง รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ

โดยมีหน้าที่ และอำนาจในการกำหนดนโยบาย แนวทาง มาตรการ และงบประมาณ ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม อำนวยการ เร่งรัดการดำเนินการ และตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ รวมทั้งติดตามผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา

นางรัดเกล้า ระบุว่า ประเด็นปัญหาส่วนใหญ่ หน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลอยู่ระหว่างการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เพื่อมาพิจารณาข้อเรียกร้องดังกล่าว ประกอบกับมีหลายกรณีเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาดำเนินการในระดับนโยบาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้ความเห็นประกอบการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาตามหน้าที่ และอำนาจ โดยละเอียดรอบคอบ และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว มีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงในการแก้ปัญหา

“ยังมีอีกหลายกรณีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มพีมูฟ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในดำรงชีวิต หากปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่องจนได้ข้อยุติ อาจเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และทำให้กลุ่มประชาชนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย และไร้ที่ดินทำกินมีจำนวนที่สูงขึ้น นำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยความเรียบร้อย” นางรัดเกล้า กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top