นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่แรงงานไทยในประเทศอิสราเอล สื่อสารผ่านโซเชียลว่าการช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า ว่า ในเรื่องนี้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทอาวีฟ พยายามที่จะติดต่อแรงงานไทยทุกคนเท่าที่จะทำได้ โดยได้รับทราบว่ามีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ 3,226 คน โดยกระจายอยู่ทั่วอิสราเอล ไม่ได้อยู่ที่ฉนวนกาซาอย่างเดียว
“ได้สอบถามไปว่า ด้วยการเดินทางไปมาที่ลำบาก จะสามารถนำทุกคนกลับมาพร้อมกันได้หรือไม่ แต่ติดขัดการเดินทางภายในที่ลำบาก และต้องระมัดระวัง แต่ใครที่กลับมาได้ รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน หากคนไทยไม่สบายใจ และสามารถเดินทางกลับได้ ก็จะให้กลับทันที” รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ระบุ
เที่ยวบินแรกจากอิสราเอล นำแรงงานกลับถึงไทย 12 ต.ค.
สำหรับการเดินทางกลับไทยนั้น เที่ยวบินแรกจะออกจากอิสราเอลวันที่ 11 ต.ค. โดยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน และถึงไทยวันที่ 12 ต.ค. มีจำนวน 15 คน เนื่องจากเครื่องบินมีพื้นที่จำกัด และพยายามนำผู้บาดเจ็บกลับมาก่อน โดยทางสถานทูตจะพิจารณาจัดลำดับความสำคัญว่าต้องส่งใครกลับมาก่อน และเที่ยวบินที่ 2 วันที่ 18 ต.ค. จะมีแรงงานไทยเดินทางกลับมาอีก 80 คน หลังจากนั้น จะค่อยทยอยกลับมาเพิ่มเติม
ส่วนเครื่องบินกองทัพอากาศ และเครื่องบินพาณิชย์ก็พร้อมเดินทางไปรับแรงงานไทย แต่การเดินทางต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย เพราะขณะนี้ยังอยู่ในสภาวะสงคราม ซึ่งเหตุการณ์นี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีความเป็นห่วงอย่างมาก โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ
นายปานปรีย์ กล่าวถึงกรณีที่คนไทยถูกจับเป็นตัวประกันว่า ล่าสุด ได้หารือกับ รมว.ต่างประเทศ อิสราเอล แต่เป็นเรื่องภายในที่บางเรื่องเล่าไม่ได้ แต่ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลใช้ความพยายามสูงสุดในการเจรจาปล่อยตัวประกันคนไทยให้ออกมาโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางรัฐบาลอิสราเอลก็ห่วงใย และแสดงความเสียใจต่อคนไทยด้วย
สำหรับยอดคนไทยที่บาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้น สถานทูตรายงานว่า มีคนไทยเสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บ 9 คน และถูกจับตัวเป็นตัวประกัน 11 คน
เปิด 3 ช่องทาง สอบถามข้อมูลคนไทยในอิสราเอล
ส่วนช่องทางการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับญาติที่พำนักอยู่ในอิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิด 3 ช่องทางหลัก ผ่านเบอร์โทรศัพท์ และโซเชียลมีเดีย ดังนี้
ช่องทางที่ 1
– สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทรศัพท์ (+972) 546368150
– กรมการกงสุล (Call center 60 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง) โทรศัพท์ 02 5728442 (กด 0)
– กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ โทรศัพท์ 064 0198530, 064 0198907, 099 6164786, 02 5751047-51 หรือ 02 5751053 (ในวันและเวลาราชการ)
– Email: [email protected]
ช่องทางที่ 2
– Line OpenChat ชื่อห้อง “ขอรับความช่วยเหลือกรณีคนไทยในอิสราเอล” (รองรับได้มากสุด 5,000 คน)
https://line.me/ti/g2/-jdaQqNs7Qe0uJOeWiAwqsHEUMRg-4T9F5FHZw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
ช่องทางที่ 3
– เพจเฟสบุ๊ก “กรมการกงสุลห่วงใยพี่น้องคนไทยในอิสราเอล” แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61552416233026
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 66)
Tags: ปานปรีย์ พหิทธานุกร, อิสราเอล, แรงงานไทย