บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนรับความกังวลปัญหาสงครามระหว่างกลุ่มฮามาส-อิสราเอล จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,400-1,460 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนเน้น 4 หุ้นพลังงานรับประโยชน์ราคาน้ำมันเด้งสูงขึ้น PTTE-SPRC-BCP-ESSO
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย GBS ประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน ได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์หลังกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. โดยมีรายงานยอดผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายนับพันราย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่อิสราเอลเรียกระดมทหารกองหนุนอีก 300,000 คนปิดล้อมฉนวนกาซา ทำให้เกิดความวิตกว่าอิสราเอลมีแผนโจมตีภาคพื้นดินเพื่อโต้ตอบ จึงต้องจับตาว่าจะเกิดสงครามยืดเยื้อหรือไม่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าดีดขึ้นเป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงคาดการณ์กรอบดัชนีที่ 1,400-1,460 จุด
ด้านทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐเมื่อพิจารณาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 170,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัว 3.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี โดยอาจเกิดขึ้นในการประชุมเดือน พ.ย.หรือ ธ.ค.นี้
ขณะที่ Fund Flow โดยรวมยังไหลออกเห็นได้จากรายงานของตลาดหลักทรพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ต.ค.66 แยกเป็นสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 54,360.27 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 51.17 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 166,025.14 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 111,613.70 ล้านบาท และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแนะนำรัฐบาลทบทวนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ลดเม็ดเงิน-แจกเฉพาะกลุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจับตาที่จะมีผลกับตลาดหุ้นไทย อาทิ วันนี้ 10 ต.ค. กำหนดประชุมครม. วันที่ 11 ต.ค. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 27 ก.ย., วันที่ 11-21 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารทยอยส่งงบการเงินงวด Q3/66
ปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันนี้ 10 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ย.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค. วันที่ 11 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. (เช้าวันที่ 12 ต.ค.) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. วันที่ 12 ต.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 13 ต.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. และดุลการค้าเดือนก.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.
นางสาววิลาสินี แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นพลังงานที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกจากความกังวลในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (Hamas) หรือองค์กรการเมืองติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์ ได้แก่ PTTE, SPRC, BCP และ ESSO
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้แนะนำจับตาประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งคาดว่าจะปรับตัวสูงกว่าเดือนสิงหาคม เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ฝ่ายวิจัยประเมินราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหลังเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสทำให้ทองคำดีดตัวขึ้นมาเหนือ 1,850 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ทำให้จบแนวโน้มขาลง เรามองกรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ที่ 1,820-1,878 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 66)
Tags: ESSO, วิลาสินี บุญมาสูงทรง, สงคราม, หุ้นพลังงาน, หุ้นไทย, อิสราเอล