กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการประจำไตรมาส 3/2566 โดยเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (มิ.ย.66) ในประเด็นต่างๆ แล้วพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 53.2% เห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด ลดลงจากการสำรวจก่อน 8.3% ขณะที่ประชาชนอีก 45.2% คิดว่าตนเองมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน 3.6% และประชาชน 41.9% มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจในอนาคตข้างหน้า ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน 13.7% และประชาชน 63.5% เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน 4.7%
โดยสาเหตุที่ผู้ประกอบการไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพงและค่าครองชีพสูง 52.5% รองลงมาคือ ไม่มีเงินทุนมากพอ 51.7% ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ สูงขึ้น 48.0% กลัวล้มเหลวและกลัวขาดทุน 43.0% และนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 30.9%
หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสินแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ 71.4% คิดว่ามีผลต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ส่วนอีก 28.6% คิดว่ามีผลต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ทั้งนี้ กรุงเทพโพลล์ ร่วมกับ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาส3/2566” ด้วยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 1,080 คน ในช่วงวันที่ 25 ก.ย.-4 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 66)
Tags: กรุงเทพโพลล์, ผลสำรวจ, ผู้ประกอบการ