เจ้าหน้าที่อินเดียเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 รายและผู้สูญหายกว่า 102 รายโดยในจำนวนนี้รวมถึงทหาร 22 นาย หลังฝนตกหนักส่งผลให้น้ำในทะเลสาบโลนัก (Lhonak) เอ่อล้นตลิ่ง และให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนหุบเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียในวันนี้ (5 ต.ค.)
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ภัยพิบัติดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากร 22,000 คน นับเป็นเหตุการณ์เลวร้ายครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในบริเวณเทือกเขาของเอเชียใต้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
โฆษกกระทรวงกลาโหมอินเดียเปิดเผยผ่าน X หรือทวิตเตอร์ว่า “ทีมกู้ภัยยังคงทำการค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งเป็นปฏิบัติการภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้าย โดยมีฝนตกหนัก กระแสน้ำของแม่น้ำทีสตา (Teesta) ที่ไหลเชี่ยว รวมถึงถนนหนทางและสะพานหลายแห่งที่ถูกพัดพาไปกับน้ำ”
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในบริเวณทะเลสาบโลนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่หุบเขาทีสตา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกังต็อก (Gangtok) เมืองหลวงของรัฐสิกขิม (Sikkim) ประมาณ 50 กิโลเมตร
หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของรัฐระบุว่า มีผู้บาดเจ็บ 26 รายและสูญหาย 102 รายจากภัยพิบัติในช่วงเช้าวันนี้ นอกจากนี้ สะพาน 11 แห่งได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำ
ขณะที่หน่วยงานสภาพอากาศของอินเดียได้ออกประกาศเตือนภัยแผ่นดินถล่มและการหยุดชะงักของเที่ยวบิน เนื่องจากคาดว่าฝนจะยังคงตกต่อเนื่องอีก 1-2 วันในหลายพื้นที่ของรัฐสิกขิม และรัฐใกล้เคียง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 66)
Tags: น้ำท่วม, อินเดีย