นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปรับลงมากถึง 6.7% สาเหตุหลักมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่ปรับขึ้นแรง ความกังวลเรื่องเสถียรภาพทางการคลังของภาครัฐฯ ทำให้ราคาหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานแกร่งหลายกลุ่มปรับลงมาเร็วตามภาวะตลาด จึงคาดว่าหลังจากนี้จะมีแรงซื้อหุ้นบางกลุ่มกลับเข้ามา เพราะในระยะสั้นถึงระยะกลางตลาดหุ้นไทยจะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวรับช่วงไฮซีซันด้านการท่องเที่ยว การส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า และรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นเกิน 1,600 จุด
จากปัจจัยบวกข้างต้น บลจ.ทิสโก้มองว่าในช่วงนี้จึงเป็นจังหวะการลงทุนที่ดี จึงจับจังหวะเสนอขายกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทย ด้วยการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#12 (TEQT5M12) ความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง) ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วยภายในระยะเวลา 5 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 4 – 9 ตุลาคม 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท
“บลจ.ทิสโก้มั่นใจว่าจะสามารถบริหารกองทุน TEQT5M12 ให้ถึงเป้าหมายในกำหนดได้ เพราะประเทศคู่ค้ารายใหญ่อย่างสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณต้องการนำเข้าสินค้าเพิ่มจากการเพิ่มสินค้าเข้าสต็อกของธุรกิจค้าปลีก ขณะที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ฟื้นตัวจะสะท้อนการฟื้นตัวของภาคการส่งออกระหว่างเอเชียและคู่ค้า ด้านการท่องเที่ยวไทยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าปี 2567 นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคนจากปี 2566 ที่อยู่ในระดับ 29 ล้านคน ผลจากเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัวหลังรัฐบาลออกนโยบายการตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับรัฐบาลไทยได้ออกนโยบายไม่เก็บค่าวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีน จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก และกลุ่มโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีความน่าสนใจด้วยเช่นกัน”
นายสาห์รัช กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 66)
Tags: กองทุนทริกเกอร์, กองทุนรวม, กองทุนเปิดใหม่, บลจ.ทิสโก้, สาห์รัช ชัฏสุวรรณ