นางธณพร ตันติยานนท์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กล่าวว่า สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้โครงการสำคัญๆ ในประเทศต่างๆ และเป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด โดยในแต่ละวันมีผู้คนมาเยือนจำนวน 120,000– 150,000 คน/วัน หรือกว่า 50 ล้านคน/ปี โดยในปีนี้สยามพารากอนทุ่มงบลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงศูนย์การค้าในรอบ 18 ปี โดยทรานสฟอร์มแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางมหานครกรุงเทพฯแห่งนี้ทั้งอาคาร ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงไตรมาส 3/66
โดยสยามพารากอนได้พัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ให้เป็นต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ที่เป็นสุดยอดในทุกๆ ด้านมาร่วมกัน Co-create สร้างผลงานและเติมเต็มยกระดับชีวิตของผู้คนให้ได้รับประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมาย ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้คนเข้ามาใช้บริการในสยามพารากอนได้เพิ่มขึ้น เริ่มจากการพัฒนา Ecosystem ร่วม Co-create ในโซนชั้น 4 “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร พื้นที่แห่งการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพให้ผู้สนใจโลกดิจิทัลทุกเจนเนอเรชั่น ได้เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาตนเอง สร้างแรงบันดาลใจ ตลอดจนเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมก้าวเข้าสู่โลกอนาคตในยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับ SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX ได้ร่บความร่วมมือในการสนับสนุนจากบมจ.เอสซีบี เอ็กซ์ (SCB) ที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาโซนใหม่ดังกล่าวให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนสมัยใหม่ได้มากขึ้น และทำให้สยามพารากอนเป็นสถานที่ที่คนไม่ได้มาเพียงซื้ออาหาร หรือช้อปปิ้ง เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถมาทำกิจกรรม ทำงาน หรือฟังสัมนาต่างๆที่เป็นความรู้ได้ในที่เดียว ทำให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันมากขึ้น
“วันนี้สยามพารากอน ได้ประกาศเดินหน้าอีกก้าวของการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญสู่การเป็น The World of Tomorrow นำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตที่มีความมหัศจรรย์น่าตื่นตาตื่นใจ” นางธณพร กล่าว
นายอารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) กล่าวว่า SCBX มีเป้าหมายสำคัญในการนำพาองค์กร สู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาคซึ่งความร่วมมือกับสยามพารากอน ในการ Co-create พื้นที่ “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” ณ ชั้น 4 สยามพารากอนในครั้งนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ตรงกันของสององค์กรภาคเอกชนชั้นนำของไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคต่อไป
โดย AreaX พัฒนาขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเทคคอมมูนิตี้บนพื้นที่ศักยภาพซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยยึดเอาความต้องการและความสนใจของกลุ่ม Tech Talent เป็นแกนสำคัญ แบ่งการใช้งานพื้นที่ 100 ตารางเมตร ออกเป็น 2 โซน ได้แก่Developer Lounge แห่งแรกของเมืองไทย ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โต๊ะทำงาน Workstation ปรับระดับได้ ที่มาพร้อม Coding Monitor ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเหล่า Developer รวมถึง Digital Nomad สามารถทำงานได้อย่างสะดวก สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานแบบ Work from Anywhere ในโลกยุคปัจจุบัน ที่ไม่จำกัดว่าจะต้องอยู่แต่ออฟฟิศเสมอไป
นอกจากนี้ยังมี Experience Zone พื้นที่แห่งการเรียนรู้ พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผ่านรูปแบบซีรีส์เวิร์กชอป ให้ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากบริษัทในกลุ่ม SCBX และองค์กรพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก ที่จะหมุนเวียนกันมาให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์แก่ผู้ที่สนใจตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังได้นำนวัตกรรมทางการเงินต่างๆ ของบริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX และเทคโนโลยีอันทันสมัยจากพันธมิตรชั้นนำมาจัดแสดงหมุนเวียนภายในพื้นที่แห่งนี้ เพื่อให้คนทั่วไปได้ร่วมสัมผัสและเข้าถึงโลกเทคโนโลยีทางการเงินมากยิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 66)
