นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า พนักงานหลายพันคนของเจพีมอร์แกนกำลังนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในขณะนี้ และมีแนวโน้มว่า AI จะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น แม้ AI ทำให้พนักงานบางส่วนมีความเสี่ยงที่จะตกงานก็ตาม
“ลูกหลานของคุณอาจจะมีอายุยืนถึง 100 ปี และไม่เป็นโรคมะเร็ง ก็เพราะเทคโนโลยี และผมคาดการณ์ว่า เทคโนโลยี AI อาจจะทำให้คนรุ่นใหม่ทำงานเพียง 3.5 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น” นายไดมอนกล่าวในวันจันทร์ (2 ต.ค.)
ทั้งนี้ นายไดมอนซึ่งเคยระบุว่า AI มีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของเจพีมอร์แกนนั้นกล่าวว่า เทคโนโลยี AI สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้เจพีมอร์แกนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อีกทั้งช่วยดึงดูดลูกค้า, ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต และสนับสนุนการบริหารความเสี่ยง
ข้อมูลจากอีวิเดนท์ (Evident) ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาระบุว่า ในเดือนก.พ.-เม.ย.ปีนี้ เจพีมอร์แกนได้ลงโฆษณาที่มีความเกี่ยวข้องกับบทบาทของ AI มากกว่า 3,500 ครั้ง และนายไดมอนได้กล่าวสนับสนุน AI ในจดหมายที่ส่งถึงผู้ถือหุ้นของเจพีมอร์แกนในปีนี้
อย่างไรก็ดี แม้นายไดมอนจะมีมุมมองเป็นบวกต่อ AI แต่ก็เตือนว่า เทคโนโลยีนี้อาจนำความเสี่ยงมาสู่มนุษย์อย่างคาดไม่ถึง หากตกไปอยู่ในมือของคนร้าย เช่น ทำให้เครื่องบินตก และการนำยามาใช้ในทางที่เป็นโทษ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 66)
Tags: AI, ธนาคารเจพีมอร์แกน, ปัญญาประดิษฐ์, เจมี ไดมอน