JPARK เปิดเทรดวันแรก 4.86 บาท เหนือจอง 27.90%

JPARK เปิดเทรดวันแรกที่ บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท (+27.90%) จากราคา IPO 3.80 บาท

บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาเหมาะสมในปี 67 ของ บมจ.เจนก้องไกล (JPARK) ราว 5.60 บาทต่อหุ้น โดยฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี P/E Ratio โดยอิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของหุ้นที่ทำธุรกิจผู้ให้บริการที่จอดรถที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ได้ PER เฉลี่ยที่ 23.4 เท่า โดยเราประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2567 ที่ราว 0.24 บาทต่อหุ้น ได้ราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 5.60 บาทต่อหุ้น และคาดหวังอัตราเงินปันผลที่ 1.8% ต่อปี (คำนวณโดยใช้ราคาเหมาะสม)

JPARK ประกอบธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ โดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ (1) ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (PS) (2) ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (PMS) (3) ธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (CIPS) ปัจจุบันบริษัทมีช่องจอดภายใต้การดูแลกว่า 25,000 ช่องจอด โดยมีทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า บริเวณศูนย์การค้าและตลาด บริเวณโรงพยาบาล บริเวณสถานศึกษา บริเวณสนามบิน โดยวัตถุประสงค์ของการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อลงทุนโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

ประเด็นสำคัญในการลงทุน

รายได้ช่วงปี 65 ฟื้นตัวจากการผ่อนคลาย Lockdown บริษัทมีรายได้จากการให้บริการในช่วงปี 63-65 เท่ากับ 285.7 ลบ. 241.2 ลบ. และ 452.3 ลบ. ตามลำดับ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการผ่อนคลายนโยบายปิดเมือง (Lockdown) ส่งผลให้ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 จำนวนผู้มาใช้บริการที่จอดรถทยอยฟื้นตัวมากขึ้น ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4/64 บริษัทได้รับสัญญาเช่าพื้นที่จอดรถแห่งใหม่บริเวณมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จำนวน 2,375 ช่องจอด

ขณะที่ %GPM เท่ากับ 16.1% 12.8% และ 24.7% ตามลำดับ สาเหตุมาจากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเป็นหลัก เนื่องจากช่วงไตรมาส 4/64 บริษัทได้เพิ่มขอบเขตการทำงานของสัญญารับจ้างบริหารจัดการอาคารจอดแล้วจร โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม โดยได้เพิ่มในส่วนของการรับจ้างจัดการจราจร และการรับจ้างทำความสะอาด ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าการรับจ้างจัดเก็บค่าบริการที่จอดเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ช่วงปี 63-65 มีกำไร(ขาดทุน)สุทธิ เท่ากับ6.5 ลบ. -11.0 ลบ. 55.1 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็น %NPM เท่ากับ 2.3% -4.6% 12.2% ตามลำดับ

งวด 6 เดือนแรกปี 66 มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 253.6 ลบ. +31.9%YoY สาเหตุหลักมาจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจให้บริการที่จอดรถ จากการผ่อนคลายนโยบายปิดเมือง (Lockdown) ของภาครัฐในช่วงกลางปี 2565 ภายหลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการที่จอดรถเพิ่มขึ้น โดยมี %GPM ที่ 21.6%สาเหตุหลักมาจาก ในช่วง 6M65 บริษัทมีรายได้บริการอื่นที่มาจากกำไรจากส่วนต่างสัญญาเช่า-ให้เช่าพื้นที่สุทธิจำนวน 10.3 ลบ. ซึ่งรายการดังกล่าวถือเป็นรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Income) ส่งผลให้ 6M66 มีกำไรสุทธิ 27.8 ลบ. เพิ่มขึ้น 47.1%YoY

คาดผลประกอบการปี 66-67 เติบโตโดดเด่น ช่วงที่เหลือของปี 66 และทั้งปี 67 เติบโตโดดเด่น โดยมีสาเหตุหลักจาก 1) ความหนาแน่นของประชากรในเขตเมือง ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการที่จอดรถมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 2) ได้แรงหนุนจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่ยังเติบโต 3) การขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ 4) ณ ปัจจุบัน มียอด Backlog อยู่ราว 99.4 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้กว่า 90% ภายในปี 66-67

5) อยู่ระหว่างพัฒนา Application “Prompt Park” ซึ่งมีฟังก์ชั่นสำรองที่จอดรถ และ ชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นต้น 6) บริษัทมีแผนนำเงิน IPO ไปลงทุนก่อสร้างอาคารจอดรถ และบริหารที่จอดรถ เราประมาณการรายได้ปี 66-67 ราว 540.1 ล้านบาท และ 692.4 ล้านบาท เติบโต +19.6%YoY และ +28.0%YoY พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ระดับ 66.2 ล้านบาท และ 94.5 ล้านบาท เติบโต +20.3%YoY และ +42.6%YoY ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top