นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้ วิปรัฐบาลเตรียมเสนอญัตติด่วนกรณีความเหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ซึ่งพรรคก้าวไกลมีมติขับพ้นจากสมาชิกพรรค เนื่องจากตนและนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมาย พบว่ากรณีที่พรรคก้าวไกลขับนายปดิพัทธ์นั้นไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคก้าวไกล ข้อ 64 (5) ที่ระบุเหตุของการขับสมาชิกให้พ้นพรรค คือ ผิดวินัย ผิดจรรยาบรรณ หรือเหตุอื่นที่ร้ายแรง
“ญัตติด่วนนี้ไม่มีเจตนาร้ายส่วนตัว เพราะผมเป็นคนที่เลือกนายปดิพัทธ์ที่เคยอยู่กับพรรคก้าวไกลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ส่วนผลของการเสนอญัตติด่วนจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการอภิปรายของที่ประชุม อีกทั้งผมจะเสนอในที่ประชุมวิปรัฐบาลด้วยเช่นกันว่าจะให้เป็นอย่างไร” นายอดิศร กล่าว
กรณีดังกล่าวจะถือว่าใช้เวทีสภาฯ แทรกแซงกิจการภายในของพรรคก้าวไกล เพราะข้อบังคับของพรรคการเมืองนั้นเผยแพร่โดยทั่วไป และกรณีดังกล่าวไม่ใช่ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แต่เป็นประเด็นของความสง่างามในการปฏิบัติหน้าที่ของรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งที่ถูกพรรคต้นสังกัดขับออกจากสมาชิกพรรค
“ที่อ้างว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผมมองว่าไม่ถูกต้อง เพราะการขับสมาชิกพรรคไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่ระบุไว้ใน 3 ข้อ ที่อ้างว่านายปดิพัทธ์ขัดมติพรรคเพราะต้องการนั่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง คนแยกแยะได้ว่าคือการละคร คือ หมอลำ ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนตอนที่ขับ สส.ที่เป็นงูเห่า ทั้งนี้คนที่ถูกพรรคขับออก ถือว่าถูกประหารทางการเมือง และการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เคารพได้ยาก” นายอดิศร กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ข้อบังคับของพรรคการเมืองระบุไว้ถึงเหตุผลที่จะขับสมาชิกออกจากพรรคการเมือง ซึ่งรายละเอียดที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนมองออกว่าไม่มีเจตนาขับออกจริง ซึ่งนายปดิพัทธ์ต้องชี้แจง และในการอภิปรายญัตติด่วนที่เตรียมเสนอนั้น ตนขอพรรคก้าวไกลอย่าชี้แจงช่วยเหลือนายปดิพัทธ์ เพราะถือว่าไม่ใช่คนของพรรคก้าวไกลแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ต.ค. 66)
Tags: การเมือง, ปดิพัทธ์ สันติภาดา, พรรคการเมือง, พรรคก้าวไกล, พรรคร่วมรัฐบาล, พรรคเพื่อไทย, รองประธานสภา, วิปรัฐบาล, อดิศร เพียงเกษ