นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ผ่อนคลายเกณฑ์การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-resident) กับสถาบันการเงินในประเทศเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความคล่องตัว และลดภาระด้านเอกสารหลักฐานให้ผู้ประกอบการต่างประเทศที่มีการค้าการลงทุนกับประเทศไทย ดังนี้
- ผ่อนคลายให้นิติบุคคลในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจด้านการชำระเงิน สามารถเข้าร่วมโครงการ Non-resident Qualified Company (NRQC) โดยสามารถทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทกับสถาบันการเงินในประเทศ โดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐาน และสามารถฝากเงินบาทในบัญชีเงินบาทสำหรับผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (Non-resident Baht Account : NRBA) ได้ไม่จำกัดยอดคงค้าง
- ผ่อนคลายให้ NRQC สามารถทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาท ผ่านสถาบันการเงินในต่างประเทศให้ยืดหยุ่นขึ้น รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการที่สถาบันการเงินต้องแจ้งข้อมูลของ NRQC ต่อ ธปท. ก่อนรับทำธุรกรรมให้ง่ายขึ้น
- ผ่อนคลายแนวปฏิบัติด้านเอกสารหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทของ non-resident ประเภทอื่น ๆ ที่นอกเหนือจาก NRQC ให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้ NR ที่มีการค้าการลงทุนในไทย สามารถทำธุรกรรมได้สะดวกขึ้น รวมทั้งเอื้อให้นักลงทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไทย (end beneficiary) สามารถทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินในประเทศได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านผู้รับฝากหลักทรัพย์ในต่างประเทศ (global custodian)
“การผ่อนคลายดังกล่าว เป็นการดำเนินการต่อเนื่องตามแผนการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ (FX ecosystem) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัว และลดต้นทุนของผู้ประกอบการในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ” นางอลิศรา ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 66)
Tags: BOT, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., ธุรกรรมทางการเงิน, อลิศรา มหาสันทนะ