นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวถึงแนวทางการพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน ว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมธุรกิจพลังงานว่ามีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ น้ำมันเบนซินมีหลายเกรด และหลายราคา มีโครงสร้างที่หลากหลาย ตนจึงได้สั่งการให้ใช้น้ำมันเบนซินชนิดที่ราคาต่ำสุดเป็นเกณฑ์ แล้วมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้ราคาที่เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
“หลังจากมอบโจทย์ไปแล้ว กรมธุรกิจพลังงาน จะหาแนวทางออกมา โดยได้กำหนดเวลาว่า ต้องได้คำตอบภายในเดือนตุลาคมนี้ และมีแนวคิดที่จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อมากำกับดูแลราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการแสดงเจตนาว่า รัฐบาลได้ลงมือทำอย่างจริงจัง และตั้งใจทำงานจริง ดีกว่านั่งเฉยๆ” รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ระบุ
ส่วนกรณีที่เชิญนายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มาหารือเรื่องนโยบายด้านพลังงานนั้น ข้อห่วงใยของ สส.พรรคก่าวไกล มีประเด็นที่ตรงกับข้อห่วงใยของตน และตนกำลังทำในแนวทางที่ สส.ก้าวไกล เสนอเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแผนร่วมลงทุน (PPP) โดย สส.ก้าวไกล ได้มีข้อเสนอแนะแผนร่วมลงทุน จึงได้ให้ไปจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอมา จะได้มีข้อมูลที่ชัดเจน และตนยินดีที่จะทำเรื่องนี้ไปพิจารณาประกอบการดำเนินนโยบายต่อไป
ทั้งนี้ สส.ก้าวไกล ได้เสนอแนะว่าหลังจากรัฐบาลมีมาตรการลดราคาพลังงานแล้ว ควรจะมีมาตรการในระยะยาวในด้านพลังงานเพิ่มเติม ซึ่งตรงกับสิ่งที่ตนคิดไว้ แต่โครงสร้างพลังงานในปัจจุบัน การปรับลดราคาในช่วงนี้ดีกว่าไม่คิดจะทำอะไรเลย และเห็นพ้องกันว่าควรที่จะต้องทำต่อ
ขณะเดียวกัน ก็ต้องเตรียมการแก้ไขปัญหาก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะก๊าซหุงต้มที่จะต้องนำเข้ามาใช้ในภาคครัวเรือน รวมถึงการนำมาผลิตไฟฟ้าจะต้องมีการปรับแผน เพื่อให้ประชาชนใช้ก๊าซที่มาจากอ่าวไทยให้มากขึ้นในราคาที่ถูกลง ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ตรงกับนโยบายของตนอยู่แล้ว แต่เรื่องทั้งหมดต้องใช้เวลาในการทำงาน เพราะเพิ่งเข้ามารับหน้าที่เพียง 10 กว่าวัน แต่ยืนยันว่าข้อเสนอและนโยบายที่มีตรงกันหมด
นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า การลดราคาพลังงานที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเรื่องนี้ สส.ก้าวไกลเข้าใจ และรู้ว่ามีวิธีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างไร โดยโครงสร้างราคาพลังงานจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เพราะใช้มานานแล้ว ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าคนไทยต้องได้รับผลประโยขน์
ด้านนายศุภโชติ กล่าวว่า การหารือในวันนี้ภาพรวมเป็นไปได้ดี ซึ่งนายพีระพันธุ์ก็รับฟัง โดยได้มีการนำปัญหาที่ได้รับจากการร้องเรียนของประชาชนมาแจ้งให้นายพีระพันธุ์ทราบ โดยเฉพาะปัญหาราคาค่าไฟแพง ซึ่งต้องมองเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอาจแพงจากราคาเชื้อเพลิงพลังงาน แต่สิ่งสำคัญต้องพิจารณา คือราคาค่าไฟที่แพง เป็นธรรมแล้วหรือยัง และสามารถอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจได้หรือไม่
โดยในส่วนของพรรคก้าวไกลเห็นว่ายังไม่เป็นเช่นนั้น จึงได้เสนอวิธีการที่จะทำให้ค่าไฟเป็นธรรมกับประชาชนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงเจรจาแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เพื่อลดค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งนายพีระพันธุ์ รับปากที่จะนำกลับไปพิจารณา
พร้อมกันนี้ พรรคก้าวไกลยังได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาพลังงานระยะยาว เพราะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงได้เสนอให้มีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ รวมถึงได้มีการเสนอการทำแผนพลังงานที่เป็นธรรม ลดการผูกขาด รวมถึงเปิดตลาดเสรีซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต และทำให้ประชาชนมีตัวเลือกมากขึ้น และเกิดภาวะการแข่งขันในภาคพลังงาน
ส่วนมาตรการที่รัฐบาลลดค่าไฟจาก 4.10 บาท/หน่วย เหลือ 3.99 บาท/หน่วยนั้น เป็นมาตรการเร่งด่วนที่ควรทำ แต่เรื่องที่จะนำเงินจากส่วนไหนมาชดเชยนั้น รมว.พลังงาน จะขอไปศึกษาก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 66)
Tags: น้ำมันเบนซิน, พลังงาน, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, ราคาน้ำมัน, เบนซิน