มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 2 แห่งของจีน ซึ่งได้แก่บริษัทไชน่า จินเหมา โฮลดิงส์ กรุ๊ป (China Jinmao Holdings Group) และไชน่า แวนกี้ (China Vanke) โดยระบุว่าบริษัททั้ง 2 แห่งมีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งคำเตือนดังกล่าวนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าวิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังลุกลามเป็นวงกว้าง
ปัจจุบันอันดับความน่าเชื่อของบริษัทไชน่า จินเหมา อยู่สูงกว่าระดับขยะ (junk) เพียง 1 ขั้น ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทไชน่า แวนกี้ อยู่ต่ำกว่าระดับลงทุน (investment grade) อยู่ 3 ขั้น โดยการประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของทั้ง 2 บริษัทสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินและสินเชื่อที่อ่อนแอลงอย่างมาก อันเป็นผลมาจากแนวโน้มการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอนของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) หลังจากที่มูดี้ส์ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนลงสู่ “เชิงลบ” จากเดิม “มีเสถียรภาพ” เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่ารัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนภาคส่วนดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
ทั้งนี้ มูดี้ส์คาดการณ์ว่า ยอดขายในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะลดลงราว 5% ในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า และคาดว่าผลบวกจากการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น จะเกิดขึ้นเพียงในระยะสั้นและไม่เสมอภาคกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 66)
Tags: จีน, มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, อสังหาริมทรัพย์, ไชน่า จินเหมา โฮลดิงส์ กรุ๊ป