นางสาวณัฐนันท์ กีรติกรยศนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า กระแสของ iPhone 15 , iPhone 15 Plus , iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ยังคงสร้างความเซอร์ไพรส์ ยอดจองทำได้ดีทุกรุ่นกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ iPhone 15 Pro Max ความจุ 256 GB และ 512 GB สีไทเทเนียมธรรมชาติเป็นที่จับจองมากที่สุด และถูกจองหมดอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยขึ้นเป็นประเทศกลุ่มแรกที่จำหน่าย iPhone 15 ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ทำให้บริษัทได้จำนวนเครื่องมาจำหน่ายยังคงอยู่ในระดับสูง และจำหน่ายได้มากกว่าเดิมเช่นกัน พร้อมสำหรับการวางจำหน่ายวันแรก ในวันที่ 22 ก.ย.66
อย่างไรก็ดี จากกระแสของรุ่น iPhone 15 ที่ยังคงได้รับความสนใจ และมียอดสั่งจองถล่มทลายดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา มองว่ามาจากความเหนียวแน่นของสาวก Apple ที่ต้องการเปลี่ยนรุ่น รวมถึง ลูกค้าที่ต้องการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจกว่าเดิม จึงทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก โดย iPhone 15 ความจุ 128 GB เริ่มต้นที่ 32,900 บาท ไปจนถึง iPhone 15 Pro Max 1 TB เริ่มต้นที่ 63,900 บาท พร้อมกับการออกโปรโมชั่นเทรดอิน รับซื้อ iPhone เครื่องเก่า เพิ่มส่วนลดเมื่อซื้อ iPhone 15 รุ่นใหม่ และเสริมทัพโปรโมชั่นสินเชื่อ U-Fund จากทาง COM7 ต่อยอดแคมเปญ UFund UPhone เป็นทางเลือกให้ลูกค้าในการตัดสินใจที่จะซื้อเครื่องใหม่ได้ง่ายกว่าเดิม อีกทั้ง กลุ่มลูกค้า iPhone เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเครื่อง กลายเป็นกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ COM7 เป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่สุดของ Apple ในประเทศไทย ทั้งในแง่ของยอดขายและปริมาณสาขา เชื่อมั่นว่า การเปิดตัว iPhone รุ่นเรือธงของ Apple ปีนี้ พร้อมกับ Apple Watch Series 9 และ Watch Ultra รุ่นที่สอง รวมทั้ง AirPods Pro รุ่นที่สาม จะยิ่งสนับสนุนให้ยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้คึกคัก
ณ สิ้นมิ.ย.66 COM7 มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า Apple กระจายอยู่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย ร้านจำหน่ายสินค้า Apple ในชื่อ Studio7 มี 110 สาขา , U-Store มี 17 สาขา นอกจากนี้ ยังจำหน่ายผ่านร้าน BaNANA , Bb , BKK , KingKong Phone และ True Shop by COM7 จากสาขาทั้งหมดภายใต้การบริหารของ COM7 ในครึ่งปีแรกมีจำนวน 1,295 สาขา พร้อมกับ แพลตฟอร์ม Studio7thailand.com และ BNN.in.th สะท้อนการมีช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และเชื่อมต่อธุรกิจ O2O (Online to Offline)
นอกจากนี้ COM7 เปิดให้บริการสาขาโฉมใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 40 สาขา หลังปิดปรับปรุง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้าน Studio7 ที่มียอดจำหน่ายระดับสูง ต้อนรับการมาของ iPhone15 กับร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ และไฮซีซั่นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
สำหรับการมาของรุ่นเรือธง iPhone 15 มองว่า ยังทำให้กลุ่มสินค้า Accessory ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเช่นกัน ชูธงสินค้า Private Label หรือ แบรนด์สินค้าของบริษัทฯ จะเข้ามาช่วยเสริมความสามารถในการทำกำไร พร้อมกับ BaNANA Sure นำเสนอ iPhone มือสองคุณภาพเยี่ยม เป็นอีกแคมเปญที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จึงมั่นใจ ภาพรวมรายได้ปีนี้เติบโต 20% ตามเป้า จากปีก่อนทำรายได้ที่ 63,026 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 66)
Tags: COM7, iPhone 15, คอมเซเว่น, ณัฐนันท์ กีรติกรยศนันท์, หุ้นไทย