SPCG จับมือ INNOPOWER ซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน

นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) ประกาศเจตนารมณ์เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 พร้อมลงนามข้อตกลงสัญญาให้บริการซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) กับบมจ.อินโนพาวเวอร์ (INNOPOWER) บริษัทในเครือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วม “ความตกลงปารีส” หรือ “Paris Agreement” เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 ประเทศไทยได้จัดส่งยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศ ซึ่งกำหนดเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net Zero Emissions) ภายในปี 2608 รวมทั้งได้ยกระดับเป้าหมาย National Determined Contribution หรือ NDC โดยเพิ่มเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกเป็น 40% ภายในปี 2573

บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด อีกทั้งยังตั้งปณิธานในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานที่สะอาดด้วยโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ ธุรกิจของเราจึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนใกล้เคียง ไม่มีต้นทุนค่าเชื้อเพลิง และไม่มีการปลดปล่อยของเสีย ทำให้สามารถลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มากกว่า 200,000 ตันต่อปี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อน

“พร้อมกันนี้ SPCG ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงสัญญาซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ร่วมกับ INNOPOWER โดย INNOPOWER จะเป็นผู้แทนในการบริหารจัดการและซื้อขายแลกเปลี่ยน REC ในระยะเวลา 5 ปี โดย SPCG คาดว่าโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Farm ทั้ง 36 โครงการในประเทศไทย รวมกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ของบริษัทนั้น จะสามารถออก REC ได้ประมาณ 370,000 RECs ต่อปี” นางวันดี กล่าว

โดยการร่วมมือดังกล่าวนั้น มีวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อส่งเสริมเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2608 อีกทั้งจะเป็นการส่งเสริมการใช้และการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 66)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top