นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วย สส.ภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงการผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง โดยย้ำถึงเหตุผลว่า หลังกัญชาถูกปลดออกจากยาเสพติดให้โทษแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น ไม่มีนโยบายเปิดเสรีเพื่อสันทนาการ แม้จะมีการโจมตีและด้อยค่านโยบายกัญชา ที่ทำให้ถูกตีตกไปในสมัยที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคลบิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน
เมื่อไม่นานมานี้ ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายกคำร้องของหมอกลุ่มหนึ่งที่ยื่นฟ้อง รมว.สาธารณสุขสมัยนั้น กรณีปลดล็อกกัญชา เนื่องจากเห็นว่าสิ่งที่ผู้ร้องกล่าวหาว่าใช้กัญชากันอย่างแพร่หลายจนเกิดผลกระทบเชิงลบทางสังคมนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการคาดเดาถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด
“พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าจะผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในสมัยนี้ต่อไป โดยจะเป็นไปตามร่างเดิม 94 มาตรา ที่เคยได้มีความเห็นจากทุกพรรค ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งยังเห็นตรงกันกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะนำเสนอเรื่องนี้ในรัฐบาลสมัยนี้ด้วย” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ มีข้อมูลวิจัยชี้ว่าเมื่อกัญชาถูกปลดล็อกจากยาเสพติดแล้ว มูลค่าของตลาดกัญชาเติบโตขึ้น 2.1 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับภาคเอกชน เท่าที่ตนได้ทำการสำรวจมา มี 21 บริษัทที่ลงทุนไปแล้วในกัญชา แต่ส่วนของกัญชงที่เป็นตลาดใหญ่กว่า โดยเฉพาะในฝั่งอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสกัดสาร CBD มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และแทบจะไม่มีสาร THC อยู่เลยนั้น
“วันนี้ ไม่มีโรงงานใดที่สามารถผลิตสาร THC ได้เลยแม้แต่โรงงานเดียว เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายให้เปิด เว้นแต่จะทำร่วมกับภาครัฐ โดยเราได้แยกกัญชงออก เพื่อไม่ให้มีการสกัดสาร THC เกิน 0.02% เป็นจุดแข็งที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีความรอบคอบพอ ที่จะควบคุมการออกกฎหมาย และไม่ทำให้กัญชาหลุดพ้นออกไปจนเกิดปัญหา” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 66)
