นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/66 จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นที่สุดของปี จากการโอนโครงการใหม่จำนวนมากทั้งโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 7 โครงการ และโครงการแนวราบใหม่อีก 15 โครงการ ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 หมื่นล้านบาท อีกทั้งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/66 ที่ 31.8%
ด้านการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆของบริษัทยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่เปิดในหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมแรกสามารถทำยอดขายได้มหด 100% และโครงการคอนโดมิเนียมที่ภูเก็ตโครงการที่ 2 สามารถทำยอดขายได้ 40% รวมถึงยังมีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/66 กว่า 20 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่ายอดขายจะทำได้ตามเป้าหมาย 3.5 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันหลังจากที่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งได้เริ่มมีการผลักดันนโยบายใหม่ๆออกมา แต่อย่างไรก็ตามมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุเในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ คือ การกระต้นกำลังซื้อในประเทศ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น และทำให้คนไทยมีรายได้มากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้จะส่งผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย ซึ่งคนไทยจะมีรายได้มากขึ้นในการซื้อที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้การส่งเสริมด้านความแข็งแกร่งของประเทศในด้านการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อสร้างให้ภาคบริการของไทยมีการเติบโตขึ้น และการโปรโมท Soft power ของประเทศไปควบคู่กัน ซึ่งจะสามารถดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และสร้างรายได้ที่เป็นห่วงโซ่เกิดขึ้น หนุนทำให่คนไทยมีงานและมีรายได้เพิ้มขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 66)
Tags: ORI, พีระพงศ์ จรูญเอก, หุ้นไทย, ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้