ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสมาคมหอการค้าอเมริกัน (AmCham) ในเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้จำนวนบริษัทสหรัฐที่ดำเนินธุรกิจในจีนและมีมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในระยะ 5 ปีนั้น ลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ผลสำรวจซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (19 ก.ย.) ระบุว่า แม้ว่ารัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยส่งผลกระทบต่อรายได้และบรรยากาศการลงทุนในปี 2565 แต่จำนวนของบริษัทสหรัฐที่มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มการทำธุรกิจในจีนระยะ 5 ปี ลดลงสู่ระดับ 52% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการออกรายงานเศรษฐกิจจีนของ AmCham เซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรกในปี 2542
ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทจำนวนมากวิตกกังวล โดยจำนวนบริษัทสหรัฐที่มองว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนเป็นความท้าทายมากที่สุดต่อธุรกิจนั้น มีมากถึง 60% ของบริษัททั้งหมด 325 แห่งที่เข้าร่วมสำรวจ ส่วนจำนวนบริษัทที่มองว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นความท้าทายต่อธุรกิจมากที่สุด อยู่ที่ระดับ 60% เช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทสหรัฐยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความโปร่งใสในการบังคับใช้กฎระเบียบของจีน โดยมีบริษัทจำนวน 1 ใน 3 ระบุว่า นโยบายและกฎระเบียบที่บังคับใช้กับบริษัทต่างชาตินั้น ย่ำแย่ลงในปีที่แล้ว
ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า บริษัทสหรัฐมองว่าความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นความเสี่ยงอันดับหนึ่งที่จะมีต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 66)
Tags: จีน, สหรัฐ, เศรษฐกิจจีน