หน่วยงานภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นจะร่วมมือกันพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในแคนาดา ซึ่งครอบคลุมการสกัดและการแปรรูปแร่ธาตุสำคัญ รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะที่รัฐบาลแคนาดาจะมอบเงินสนับสนุนและการสนับสนุนรูปแบบอื่น ๆ โดยทั้งสองประเทศร่วมมือกันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอุปทาน
รายงานระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์ EV ของบริษัทญี่ปุ่นในภูมิภาคอเมริกาเหนือเท่านั้น แต่จะเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอีกด้วย
นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของญี่ปุ่นจะเดินทางเยือนแคนาดาในวันพฤหัสบดีหน้า (21 ก.ย.) และลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับนายโจนาธาน วิลคินสัน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของแคนาดา และคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานสำหรับแบตเตอรี่ EV
ขอบเขตความร่วมมือแรกคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการสกัดนิกเกิลและลิเทียมในแคนาดาโดยองค์การเพื่อความมั่นคงด้านโลหะและพลังงานของญี่ปุ่น (Japan Organization for Metals and Energy Security) และอื่น ๆ แม้ว่าแคนาดาจะมีแร่ธาตุสำคัญสำรองไว้จำนวนมาก แต่ก็เผชิญกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับกำลังการผลิต เช่น ด้านเทคโนโลยีและทรัพยากรมนุษย์
ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) ระบุว่า แคนาดามีแหล่งสำรองลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง หรือประมาณครึ่งหนึ่งของจีน แต่ปริมาณการผลิตยังคงอยู่ที่ประมาณ 2% ของจีน ดังนั้น ความร่วมมือกับญี่ปุ่นจะก่อให้เกิดการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ผลิตวัสดุและแบตเตอรี่ของญี่ปุ่นหวังว่าจะแปรรูปแร่ธาตุสำคัญที่ขุดได้ในแคนาดา และสร้างโรงงานสำหรับแบตเตอรี่ EV ที่ใช้แร่ธาตุเหล่านั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 66)
Tags: ญี่ปุ่น, รถยนต์ไฟฟ้า, แคนาดา