สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พื้นที่ทางตอนใต้ของจีนเผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ขณะที่พายุไต้ฝุ่นได้เคลื่อนตัวจากชายฝั่งมณฑลกวางตุ้งไปยังมณฑลกว่างซี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบริเวณที่ราบลุ่ม ขัดขวางเส้นทางสัญจร และทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่สามารถเดินทางได้
สื่อของรัฐรายงานในวันนี้ (11 ก.ย.) บริเวณเขตชนบทเมืองป่อไป่ ภูมิภาคกว่างซี เจ้าหน้าที่กู้ภัยบนเรือตรวจการณ์พยายามเร่งนำพาผู้คนไปยังสถานที่ปลอดภัยตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ (10 ก.ย.) หลังระดับน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร (6.6 ฟุต) ส่งผลให้บ้านเรือนของผู้อยู่อาศัยในบริเวณที่ราบลุ่มต้องจมอยู่ใต้น้ำ
ทั้งนี้ คาดว่าจะเกิดฝนตกหนักในมณฑลกว่างซีไปอีก 2-3 วัน
รายงานระบุว่า พายุไห่ขุยได้อ่อนกำลังจากระดับพายุไต้ฝุ่นเป็นพายุโซนร้อน นับตั้งแต่พัดขึ้นฝั่งในมณฑลฝูเจี้ยนเมื่อวันที่ 5 ก.ย. แต่อิทธิพลของพายุยังคงสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนอย่างต่อเนื่อง โดยเมืองเซินเจิ้น เผชิญฝนตกหนักที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2495 ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงอย่างฮ่องกง ก็ถูกพายุพัดถล่มครั้งใหญ่ในรอบ 140 ปีเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์กล่าวเตือนว่า พายุไต้ฝุ่นที่ถล่มจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น และเส้นทางการเคลื่อนตัวเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริเวณเมืองต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่ง เช่น เมืองเซินเจิ้น ที่เผชิญพายุโซนร้อนอยู่เป็นประจำและมีความสามารถในการป้องกันน้ำท่วมที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นายเสี่ยว ซุน นักอุตุนิยมวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ กล่าวว่า “พายุไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวลึกเข้าไปในภูมิภาคที่เผชิญกับฝนตกหนักและลมกระโชกแรงไม่บ่อยนัก มักจะมีความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติน้อยกว่า อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียที่รุนแรงยิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 66)
Tags: จีน, ฝนตกหนัก, พายุ, พายุไต้ฝุ่นไห่ขุย