พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังเข้าทำงานวันแรกว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลตอนใต้เกาะสีชัง จ.ชลบุรี โดยเฉพาะการแพร่กระจายของคราบน้ำมัน ที่ต้องเน้นการใช้เทคโนโลยีดาวเทียม เพื่อตรวจสอบการขยายวงกว้างของคาบน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศทางทะเลที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพประมงชายฝั่ง
ขณะเดียวกันให้มีการจัดทำแผนแม่บท โดยการถอดบทเรียนกรณีการรั่วไหลของน้ำมันในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก เพราะคราบน้ำมัน จะมีผลต่อสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง
เตรียมแผนป้องกัน PM2.5 ในหน้าหนาว
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นห่วงปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ประเทศไทย กำลังเผชิญปัญหาและสร้างผลบกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในฤดูหนาวของทุกปี ซึ่งได้ให้มีการเตรียมแผนป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น โดยตั้งเป้าให้มีการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องการจัดสรรที่ทำกิน นับเป็นเรื่องสำคัญ ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในภาพรวมการทำงาน จะเน้นให้เกิดการบูรณาการของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการช่วยเหลือประชาชน และการดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น และเกิดความยั่งยืน
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ในฐานะที่ต้องมารับผิดชอบงานบริหารราชการต่อจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีข้อสั่งการเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ แต่ให้เป็นความรับผิดชอบในการดูแลตามหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่มีความกังวลในการมาบริหารงาน เพราะกระทรวงฯ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เนื่องจากข้าราชการกระทรวงนี้มีความรู้ความสามารถในการดูแลรับผิดชอบในหน้าที่ดีอยู่แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 66)
Tags: PM2.5, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, น้ำมันดิบรั่ว, พัชรวาท วงษ์สุวรรณ