JPARK ปิดท้ายโรดโชว์ กทม.นับถ้อยหลังเข้า mai ชูศักยภาพความเชี่ยวชาญบริหารที่จอดรถ

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เจนก้องไกล (JPARK) เปิดเผยว่า บริษัทนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) ก่อนจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้นเป็นจุดสุดท้าใน กทม.วันนี้ หลังจากเดินทางโรดโชว์มาแล้ว 7 จังหวัด คือ ชลบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, เชียงใหม่, นครสวรรค์, สุราษฎร์ธานี และ อ.หาดใหญ่ สงขลา ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นต่อ JPARK โดยหลังจากนี้จะเตรียมกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ JPARK เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเร็วๆ นี้

JPARK ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารที่จอดรถ รายได้หลักมาจากการให้บริการที่จอดรถในสัดส่วน 65-70% เกือบทั้งหมดเป็นเงินสด ส่วนที่สองเป็นธุรกิจบริหารพื้นที่จอดรถ เป็นรายได้ที่คงที่สัดส่วนราว 18% ของรายได้รวม และสุดท้ายธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารที่จอดรถ มีสัดส่วนรายได้ 15% จากประมาณการรายได้รวมของบริษัทราวปีละ 500 ล้านบาท ซึ่งในปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 455 ล้านบาท
          

นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวว่า นักลงทุนทุกจังหวัดให้ความสนใจในการเข้ารับฟังข้อมูลของ JPARK อย่างคึกคัก โดยบริษัทมีจุดเด่นสำคัญคือความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่จอดรถมามากกว่า 20 ปี สามารถนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละประเภทได้อย่างครบวงจร

ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 110 ล้านหุ้น  มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.50% ของจำนวนหุ้นภายหลัง IPO จะรวมเป็นทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยการเข้าระดมทุนและเข้าตลาด mai จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ JPARK เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต ด้วยการพัฒนานวัตกรรม ทีมงานที่มีความพร้อมและประสบการณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญมากขึ้น

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น JPARK เปิดเผยว่า JPARK ประกอบธุรกิจด้านการให้บริหารที่จอดรถ ด้วยทีมงานด้านการบริหารงานที่มีประสบการณ์สูงครอบคลุมในทุกลักษณะงาน โดยเฉพาะงานด้านการจัดการจราจร การจัดเก็บเงินค่าจอดรถ ระบบและอุปกรณ์ควบคุมที่จอดรถที่ทันสมัยและการบริการดูแล บำรุงรักษา สถานที่จอดรถ อาคารจอดรถ ลานจอดรถ เพิ่มการใช้พื้นที่จอดรถให้มีประสิทธิภาพสูง

ธุรกิจของ JPARK สร้างรายได้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย รายได้งานบริหารที่จอดรถมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้มาใช้บริการที่ทยอยฟื้นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงรายได้จากการรับจ้างบริหารพื้นที่จอดรถเติบโตขึ้นด้วย ทั้งจากโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโครงการที่บริษัทให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วส่วนใหญ่ก็จะจ้างบริษัทให้บริหารจัดการ ซึ่งสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง

นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยว่า บริษัทให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ โดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลักคือ 1.ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (Parking Service Business: PS) 2.ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Parking Management Service Business: PMS) และ 3.ธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Consultant and Installation Parking System Business: CIPS)

นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK

ปัจจุบันบริษัทมีช่องจอดภายใต้การดูแลกว่า 28,000 ช่องจอด ทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าแหล่ง CBD บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน ซึ่งพื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ภายหลังจากการระดมทุน JPARK มีแผนจะลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์กลางปี 67 ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว โดยสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการให้บริการที่จอดรถ ซึ่งพื้นที่จอดรถของโรงพยาบาลสร้างรายได้ให้กับบริษัทสูงสุด และบริษัทมีแผนจะขยายพื้นที่จอดรถยนต์ในพื้นที่สำนักงาน ซึ่งจะเริ่มต้นเปิดให้บริการในปีหน้าเป็นต้นไป รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ        

นายสันติพล กล่าวว่า การขยายตัวของเมืองเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ธุรกิจให้บริการพื้นที่จอดมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะได้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นหลังกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะโควิด-19 ซึ่งบริษัทมีงานที่ยังไม่ส่งมอบ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 66-69 รวม 99.35 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการในอนาคต ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้บริษัทอย่างมั่นคง ได้แก่ โครงการให้บริการที่จอดรถ (PS) บริเวณโรงพยาบาลลาดกระบัง จำนวน 162 ช่องจอด ลงทุนราว 2.8 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3/66 ส่วนโครงการบริเวณโรงพยาบาลศิริราช (ตลาดบางกอกน้อย) จำนวน 230 ช่องจอด งบลงทุน 16 ล้านบาท รูปแบบการรับรู้รายได้มาจากค่าเช่าที่จอดรถ และค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ คาดว่าจะเริ่มให้บริการไตรมาส 1/67

บริษัทยังมีโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถผ่านแอปพลิเคชั่น “Prompt Park” เพื่อให้บริการรูปแบบอัตโนมัติ ด้วยการประยุกต์ใช้ระบบการชำระเงินไร้เงินสด และอุปกรณ์ที่จอดรถอัตโนมัติต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน และยังสามารถขยายพื้นที่การให้บริการที่จอดรถโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรคน ความคืบหน้าปัจจุบันมีฟังก์ชันการใช้งานหลักเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการในเดือน ม.ค.67 และตั้งเป้าหมายขยายการให้บริการไปถึง 100 ลานจอดรถยนต์

สำหรับผลประกอบการของ JPARK ในปี 63-65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 286.17 ล้านบาท 243.61 ล้านบาท และ 455.09 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 6.51 ล้านบาท ขาดทุน  10.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท ตามลำดับ

ในช่วงปี 63 จนถึงกลางปี 65 รายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown สถานการณ์ COVID-19 จึงทำให้รายได้ธุรกิจให้บริการที่จอดรถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ช่วงปลายปี 65 เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับ บริษัทมีรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ ธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมในปี 65 รายได้และความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 66)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top