บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) ตัวจริงเรื่องกะทิและน้ำมะพร้าวระดับโลก เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 370 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 5.50 บาท นำไปใช้ขยายกำลังผลิตทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์อย่าง น้ำมะพร้าว อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากพืช พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม ภายในเดือนกันยายนนี้
COCOCO ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าว ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi รวมถึงการผลิตสินค้าแบบ OEM นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวแบบเปียกเพื่อสุขภาพ รวมถึงการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพจากโปรตีนพืช และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีสและเนยประเภทต่างๆ ที่ทำจากพืช
นายวรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COCOCO เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า เงินระดมทุนส่วนแรกราว 600 ล้านบาทใช้สำหรับขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวจากประมาณ 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี ตอนนี้กำลังเริ่มติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะพร้อมผลิตได้ช่วงปลายปีนี้
“ปัจจุบันเราเดินเครื่อง 24 ชม.ก็ยังไม่พอ อย่างที่เรียนว่าเราเพิ่งเริ่มขายน้ำมะพร้าวในจีนประมาณปีที่แล้ว ดังนั้นโอกาสเติบโตยังมีอีกมาก และตอนนี้เราเริ่มผลิตอาหารอื่น ๆ ด้วย เช่น สแน็คที่เป็นทองม้วน แกงสำเร็จรูป หรือนมข้นจากกะทิ เป็นต้น” นายวรวัฒน์กล่าว
และเงินระดมทุนส่วนที่สองราว 50 ล้านบาทใช้สำหรับซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าขนมกินเล่นของสุนัขและแมว ซึ่งตามแผนเราจะเริ่มจากเครื่องจักรขนาดเล็กก่อน จากนั้นค่อยดูการเติบโตของสินค้าและค่อย ๆ ขยายต่อไป คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายสินค้าได้ช่วงต้นปี 67
“ปีนี้ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 3 ของการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงของโลก เลื่อนจากลำดับที่ 5 ในปีก่อน และเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ยังโตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ดูได้จากหลาย ๆ ครอบครัวที่เลี้ยงสุนัขและแมวกันมากขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
นอกจากนี้เงินระดมทุนส่วนที่สามราว 50 ล้านบาทใช้เพื่อซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายสินค้าที่ทำจากพืชประเภทไอศกรีม เนื่องจากมองว่าสินค้า Plant Based กำลังเป็นที่นิยมในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ และการที่เลือกทำสินค้าไอศกรีม เพราะรสชาติไอศกรีมจากประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีและได้รับความสนใจในตลาดต่างประเทศ คาดจะเริ่มจำหน่ายสินค้าได้ในปี 67
สำหรับเงินระดมทุนส่วนที่สี่ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินของบริษัทและบริษัทย่อยราว 220 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ (Working Capital) สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย
ส่วนแผนธุรกิจระยะยาว 3-5 ปี หลังจากเข้าตลาดฯไปแล้ว สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากสินค้าน้ำมะพร้าว 60% สินค้ากะทิกว่า 30% และสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง 10% จากเดิมที่ สินค้าน้ำมะพร้าว 20-30% สินค้ากะทิ 70-80% และสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง 10%
“ออเดอร์เราตอนนี้ยาวไปถึงสิ้นปีแล้ว และปกติบริษัทเราจะมีการพูดคุยเรื่องออเดอร์กับลูกค้าทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งปีหน้าเขาก็ส่งสัญญาณมาว่ายอดขายของเราน่าจะมีทิศทางที่ดี เราถึงสั่งเครื่องจักรเพิ่มเติมเข้ามา” นายวรวัฒน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ย. 66)
Tags: COCOCO, IPO, IPOInsight, SCOOP, วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว, หุ้นไทย, ไทย โคโคนัท