นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียจะสร้าง “เขตการเงินพิเศษ (special financial zone)” ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ของบริษัทคันทรี การ์เดน (Country Garden) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน พร้อมทั้งเสนอนโยบายต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุน
โครงการฟอเรสต์ ซิตี (Forest City) มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ของบริษัทคันทรี การ์เดนนั้น จะสร้างขึ้นครอบคลุมพื้นที่เกาะ 4 แห่งในรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย ติดกับประเทศสิงคโปร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับประชาชนจำนวน 700,000 คนภายในปี 2578 ซึ่งรวมถึงบ้าน, อาคาร, สำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ๆ
นายอันวาร์กล่าวว่า นโยบายสร้างจูงใจที่รัฐบาลมาเลเซียเสนอให้แก่โครงการฟอเรสต์ ซิตีนั้น ได้แก่ ภาษีเงินได้ในอัตราพิเศษ 15% สำหรับแรงงานที่มีฝีมือ และการออกวีซ่าแบบเข้าออกประเทศหลายครั้ง ขณะที่สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียระบุว่า “เขตการเงินพิเศษ”นั้น จะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจต่าง ๆ ในโครงการฟอเรสต์ ซิตี
ทั้งนี้ การเสนอแรงจูงใจดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่คันทรี การ์เดน กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงิน ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้อีก
โครงการฟอเรสต์ ซิตี เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของคันทรี การ์เดน และเป็นการร่วมทุนกับบริษัทเอสพลานาด แดงกา 88 (Esplanade Danga 88) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของมาเลเซียที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลยะโฮร์ และสุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์
เมื่อต้นเดือนส.ค. บริษัทคันทรี การ์เดน ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 2 ชุด คิดเป็นมูลค่ารวม 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า วิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจจะลุกลามไปยังภาคการเงินและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 66)
Tags: คันทรี การ์เดน, คันทรี การ์เดน โฮลดิ้งส์, จีน, มาเลเซีย, อสังหาริมทรัพย์, อันวาร์ อิบราฮิม