บลจ.อีสท์สปริงชูเป้าสิ้นปี AUM 3.8 แสนลบ.ดึงจุดแข็งปั้นพอร์ตตามเทรนด์โลก

น.ส.ดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าสิ้นปี 66 จะมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (Assets Under Management :AUM) อยู่ที่ประมาณ 3.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท ซึ่งเติบโตจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งคาดหมายว่าจะเติบโตประมาณ 13% เป็น 63,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 57,000 ล้านบาท Private Fund เติบโตจากเดิมประมาณ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังกองทุนรวมเน้นการเติบโตแบบสมดุล

ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการลงทุนทั่วโลก และความไม่แน่นอนด้านการเมืองในประเทศ จึงเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมกองทุนรวมในการแสวงหาสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ขณะที่ บลจ.อีสท์สปริง ภายหลังการควบรวมระหว่าง บลจ.ทหารไทย กับ บลจ.ธนชาตสำเร็จ ได้ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมไปกับการสร้างความแข็งแกร่งของระบบงานภายในเพื่อเสริมศักยภาพ รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมนำเทคโนโลยีมาเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าทั่วไป และลูกค้าสถาบัน

โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ (AUM) อยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท และยังสามารถครองสัดส่วนการตลาดธุรกิจกองทุนรวมเป็นอันดับ 6 มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการอยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 6.87% (ข้อมูลจาก AIMC ณ 31 ธ.ค.65)

สิ่งที่โดดเด่นของ บลจ.อีสท์สปริง คือ การเป็นผู้เชี่ยวชาญในเอเชียที่มีมุมมองการลงทุนระดับโลก (Asia Expert with Global Access) ด้วยจุดแข็งของทีมงานด้านการลงทุนของ บลจ.อีสท์สปริง ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 15 ปี ผสานกับเครือข่ายระดับสากลของ Eastspring Investments ประเทศสิงคโปร์ ช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านการลงทุน โดยเฉพาะการสร้างโอกาสในการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Funds หรือ FIFs) ส่งผลให้บริษัทฯ ครองสัดส่วนการตลาดอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนรวม FIF ประเภทตราสารหนี้ มีส่วนแบ่งตลาด 28% ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาท จากกองทุนรวม FIF ทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งครองสัดส่วนการตลาดอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมที่ 17% ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 1.18 แสนล้านบาท (ข้อมูลจาก AIMC ณ 31 ธ.ค.65)

“เรายังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ครอบคลุมและหลากหลาย จุดเด่นที่สร้างความแตกต่างของเราคือ การมีกองทุนให้เลือกหลากหลายทั้งในและต่างประเทศ และมีความยืดหยุ่นในการสับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ในหลากหลายรูปแบบ โดยเรามีโปรแกรมช่วยคำนวณการลงทุนสำหรับการแผนการเงินให้เกษียณสุข และ ลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สามารถติดตามผลการลงทุนได้ทุกวัน 24 ชม. ตลอด 7 วัน โดย ส่งผลให้มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ สิ้นปี 2565 กว่า 5.7 หมื่นล้านบาท” น.ส.ดารบุษป์ กล่าว

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์อีสท์สปริงเป็นที่ยอมรับจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นมี 3 แนวทาง คือ 1) มุ่งเน้นการสร้างทางเลือก พร้อมกับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีให้กับผู้ที่ประสงค์จะมีอิสระทางการเงินหลังเกษียณ ด้วยทางเลือกที่หลากหลาย และมีคุณภาพ รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการจัดการพอร์ตการลงทุนได้ตามความต้องการผ่าน FundLink Online และ FundLink M Choice ซึ่งในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมาชิกจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยสามารถเลือกการลงทุน และปรับสัดส่วนการลงทุนได้ ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้นจาก PVD Application ใหม่ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้

2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็น Best in Class แล้ว บริษัทฯ ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผสานประโยชน์ของกองทุนรวมและประกันเข้าไว้ด้วยกันอย่างชาญฉลาด เพื่อเป็นทางเลือกและส่วนประกอบในพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ 3) การนำระบบงานด้านการจัดการลงทุนชั้นนำของโลกเข้ามาใช้ในประเทศไทย โดยเป็นระบบที่สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยง ตลอดจนประเมินแหล่งที่มาของผลตอบแทน (Attribution Analysis) บน One Single Platform เพื่อให้ได้ข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด ในการบริหารกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคล

“เรามีความร่วมมือในการบริหารพอร์ตสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกในลักษณะ Multi Asset Portfolio Solutions ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารการลงทุนกว่า 25 ปี มีทีมผู้จัดการลงทุนดูแลกว่า 50 คนในภูมิภาคเอเชีย พร้อมด้วยเทคโนโลยี LOGOS ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการจัดพอร์ตและตัดสินใจในการลงทุนของ Eastspring Investments นอกจากนี้เรายังนำระบบด้านการจัดการลงทุนระดับโลก ที่ช่วยวิเคราะห์ด้านความเสี่ยง ตลอดจนประเมินแหล่งที่มาของผลตอบแทนบนแพลตฟอร์มเดียวเพื่อให้ได้ข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำอีกด้วย” น.ส.ดารบุษป์ กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top