กลุ่มการค้าอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ, บริษัทเชฟรอน (Chevron) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ และรัฐลุยเซียนา ได้ยื่นฟ้องร้องคณะทำงานของนายโจไบเดน ประธานาธิบดีสหัฐ เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) ในเรื่องการตัดสินใจถอดพื้นที่บางส่วนออกจากการขายสัมปทานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกที่กำลังจะมีขึ้น เพื่อปกป้องสายพันธุ์วาฬที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
การฟ้องร้องดังกล่าวนับเป็นข้อพิพาทล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่างอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซกับคณะทำงานของนายไบเดน ในประเด็นการเช่าสัมปทานที่ดินและพื้นที่ทางน้ำของรัฐเพื่อการพัฒนาพลังงาน
นายไบเดนได้ยุติการประมูลการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซบนที่ดินของรัฐบาลกลางชั่วคราว ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบในปี 2564 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ กฎหมายว่าด้วยการปรับลดเงินเฟ้อของสหรัฐ (Inflation Reduction Act) หรือ IRA กำหนดให้ระงับการปล่อยเช่าสัมปทานพื้นที่ในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งวางแผนไว้ในเดือนหน้า
คำฟ้องร้องดังกล่าวถูกยื่นที่ศาลรัฐบาลกลางเขตตะวันตกของรัฐลุยเซียนา หลังจากที่สำนักบริหารจัดการพลังงานมหาสมุทรของกระทรวงมหาดไทยบรรลุขั้นตอนสุดท้ายของแผนการปล่อยเช่าสัมปทานเมื่อวันพุธ (23 ส.ค.) โดยการปล่อยเช่าได้มีกฎใหม่เพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือข้อจำกัดต่าง ๆ สำหรับการพัฒนาในพื้นที่ เพื่ออนุรักษ์วาฬสายพันธุ์ไรซ์ (Rice) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ด้านนายไรอัน เมเยอร์ส์ รองประธานอาวุโสและที่ปรึกษาทั่วไปของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ในวันนี้ เรากำลังดำเนินการเพื่อท้าทายการกระทำอันไร้ซึ่งความยุติธรรมของกระทรวงมหาดไทยสหรัฐ ที่จำกัดการเข้าถึงพลังงานเพิ่มเติมในอ่าวเม็กซิโก”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 66)
Tags: chevron, บริษัทน้ำมัน, อ่าวเม็กซิโก, เชฟรอน