นโยบาย “เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท” ของพรรคเพื่อไทยสร้างความฮีอฮาให้กับสังคมตั้งแต่ช่วงเริ่มหาเสียงเลือกตั้ง และหลายคนต่างรอให้นโยบายนี้เกิดขึ้นได้จริง แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 5 แสนล้านบาทและมองประเด็นความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เพราะหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจปากท้องแค่ฉาบฉวย และยังเสี่ยงต่อเสถียรภาพการคลังตามมา
พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ปัจจุบันสภาพที่การแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทย ยังเดินตามไม่ทันประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้อง “ปั๊มหัวใจ” ของประชาชนเป็นอันดับแรก โดยเสนอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ “ใช้จ่ายใกล้บ้าน ด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) โดยเชื่อว่าแม้จะเป็นเพียงมาตรการเฉพาะหน้า แต่ก็ถือเป็นรากฐานสำคัญเพื่อต่อยอดนโยบายกระตุ้นด้านอื่นๆ มุ่งหวังจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตได้ถึงปีละ 5%
ทั้งนี้ นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท คาดกันว่าจะเริ่มใช้ได้ไม่เกินกลางปี 2567 โดยระหว่างนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของพรรคเพื่อไทย กำลังจัดเตรียมความพร้อมในการผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว เพราะเป็นนโยบายหลักที่หาเสียงไว้กับประชาชน
กระเป๋าเงินดิจิทัล คือเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิการใช้เงิน ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิการใช้เงินที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปใน เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้
1. คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
ประชาชน ที่มีสัญชาติไทยทุกคน และอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยทำงานตามกฎหมาย มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ส่วนประชาชนที่ได้รับสวัสดิการอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น คนพิการ และคนชรา ก็ยังมีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลเต็มจำนวนโดยไม่หักลด
2. ไม่ต้องลงทะเบียน เพราะระบบจะผูกกับบัตรประชาชน
ประชาชนที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนเพิ่มเติม เพราะระบบจะผูกกับบัตรประชาชนอยู่แล้ว
3. ใช้จ่ายใกล้บ้าน ในร้านค้ารัศมี 4 กม.
ประชาชนสามารถนำเงินดิจิทัล ไปใช้จ่ายซื้อสินค้า ณ ร้านค้าที่อยู่ในรัศมี 4 กม. จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่วนในพื้นที่ห่างไกลจะมีการพิจารณาเป็นกรณีด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
4. ใช้สำหรับซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
ประชาชนสามารถนำเงินดิจิทัล ไปใช้ซื้อสินค้าต่างๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต แต่ต้องไม่ใช่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข โดยเฉพาะยาเสพติด และการพนัน อีกทั้งไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้
5. เงินดิจิทัล มีวันหมดอายุ
ต้องใช้เงินดิจิทัลให้หมด ภายใน 6 เดือน ซึ่งจะเป็นการทยอยซื้อสินค้าหลายครั้ง หรือจะใช้ในครั้งเดียวก็ได้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน
ระยะสั้น : เพิ่มเงินในระบบ
ระยะกลาง : วางมาตรการและเงื่อนไขให้รัฐเก็บภาษีคืนได้
ระยะยาว : วางโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 66)
Tags: กระเป๋าเงินดิจิทัล, เงินดิจิทัล, เพื่อไทย