มาเลเซียมุ่งหวังมีส่วนร่วมมากขึ้นในธุรกิจห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้า ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงยิ่งขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่เทสลา (Tesla) ประกาศจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในมาเลเซีย
“รถยนต์ไฟฟ้าคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ” นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในการสัมภาษณ์พิเศษที่สำนักนายกรัฐมนตรีในเมืองปุตราจายาทางตอนใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์
การตัดสินใจครั้งสำคัญของเทสลาในการตั้งสำนักงานใหญ่ที่มาเลเซียนั้น เป็นการช่วยเสริมจุดยืนที่สำคัญให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้า และนับเป็นข้อตกลงแรก ภายใต้โครงการริเริ่มผู้นำระดับโลกด้านแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle Global Leaders) ของมาเลเซีย
ข้อตกลงดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงโอกาสของเทสลาในการขยายไปสู่ตลาดใหม่ ๆ หลังจากการเติบโตชะลอตัวในจีนและตลาดหลักอื่น ๆ
ภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงของเทสลากับมาเลเซียนั้น เทสลาจะสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในเซี่ยงไฮ้ในมาเลเซียได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าหรือผ่านตัวแทนการจัดจำหน่าย
ทั้งนี้ เทสลาจะจัดตั้งสำนักงานใหญ่และศูนย์บริการระดับภูมิภาคในรัฐสลังงอร์ โดยจะติดตั้งเครื่องมือขั้นสูงสำหรับตรวจสอบรถยนต์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทคนิคที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี
นอกจากนี้ จะมีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเขตเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของมาเลเซีย โดยแผนการติดตั้งแรกเริ่มในตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการได้อย่างทั่วถึง
นายอันวาร์กล่าวเสริมว่า มาเลเซียเปิดกว้างต้อนรับการลงทุนที่มากขึ้นในภาคส่วนรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงผู้ผลิตจากจีน แม้ในขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเข้ามา แต่ก็พร้อมเปิดกว้างสำหรับอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 66)
Tags: EV, Tesla, มาเลเซีย, ยานยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไฟฟ้า, เทสลา