“หมูเถื่อน” ยังระบาดหนักกดราคาในประเทศร่วง เกษตรกรสุดทนร้องรัฐเร่งกวาดล้าง

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เรียกร้องให้รัฐเร่งกวาดล้าง “หมูเถื่อน” ชี้ปัจจัยหลักกดราคาในประเทศตกต่ำต่อเนื่อง หวั่นผู้เลี้ยงถอดใจเลิกเลี้ยง

นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูผิดกฎหมายจากต่างประเทศ หรือหมูเถื่อน เป็นต้นเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยง จากปริมาณหมูเถื่อนที่ทะลักเข้าสู่ตลาดทุกทิศทาง ทำให้เกษตรกรไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับหมูเถื่อนราคาถูกที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศได้

โดยปัจจุบัน ประกาศราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม อยู่ที่ 66-74 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกร Pig Board คาดการณ์ต้นทุนการเลี้ยงสุกร ไตรมาสที่ 3/66 ประเภทซื้อลูกสุกรเข้าขุนปรับลงเป็น 80.79 บาทต่อกิโลกรัม

นายสุนทราภรณ์ กล่าวว่า แรงกดดันจากหมูเถื่อนที่ลักลอบเข้ามาตีตลาดหมูไทย ทำให้ราคาหมูตกต่ำอย่างหนัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ปริมาณหมูในท้องตลาดขณะนี้จะต้องมีไม่มากจากผลของโรค ASF ในสุกรที่ทางการประกาศพบเมื่อต้นปี 65 ทำให้มีเกษตรกรเกือบครึ่งหนึ่งเลิกเลี้ยง เพราะหวั่นเกรงการขาดทุนจากภาวะโรค ผนวกกับวงการหมูก็ประสบภาวะราคาตกต่ำก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ปริมาณหมูเป็นในประเทศลดลงอย่างมาก แต่ในตลาดกลับมีปริมาณเนื้อหมูมากผิดปกติ สะท้อนว่ามีหมูนอกผิดกฎหมายมาปะปนขายแข่งกับหมูไทยแน่นอน

“ตามวงรอบการเลี้ยง เหมือนอย่างที่จีนผลผลิตหมูหายไปนานประมาณ 2 ปี นั่นหมายความว่า ราคาหมูในประเทศจะต้องสูงขึ้น เพราะมีปริมาณน้อย แต่สถานการณ์กลับไม่เป็นตามนั้น เพราะวันนี้กลับมีปริมาณหมูล้นตลาด ที่สำคัญคือ จำนวนเนื้อหมูจำนวนมากที่มีนั้น ไม่ได้มาจากการเลี้ยงของเกษตรกรผู้เลี้ยงในประเทศที่ผ่านมาทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างระดมแก้ไข แต่ปัญหากลับไม่หมดสิ้น ยังคงมีหมูเถื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ” นายสุนทราภรณ์ กล่าว

นายสุนทราภรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรขอฝากความหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ ให้เข้ามาช่วยจัดการกับปัญหาที่เป็นทุกข์หนักของเกษตรกร กวาดล้างหมูเถื่อนให้สิ้นซาก ก่อนที่เกษตรกรจะล้มหายตายจากไปมากกว่านี้

ก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้มีผลประโยชน์นับแสนล้าน ประเมินจากแต่ละตู้ที่ขนเข้ามามีต้นทุนและกำไรรวมกันประมาณ 3,750,000 บาทต่อตู้ และการข่าวบอกว่ามีตู้เหล่านี้มากถึง 2,000 ตู้ ในช่วงปี 65-66 เชื่อว่าตอนนี้ตู้เหล่านั้นยังคงอยู่ที่ท่าเรือซุกซ่อนอยู่

อย่างไรก็ดี เกษตรกรทั่วประเทศ พร้อมด้วยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทุกสมาคม พร้อมผลักดันทุกวิถีทาง เพื่อให้ภาระกิจทวงคืนตลาดหมูให้กับเกษตรกรไทย ตลอดจนทวงคืนสุขภาพ และความปลอดภัยทางอาหารของคนไทยกลับมาให้ได้เร็วที่สุด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top