นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะผู้เสียหายที่เป็นผู้ถือหุ้นของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อขอให้ตรวจสอบ SIRI ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มีพฤติการณ์ใช้นอมินีซื้อที่ดินต่างๆ รวมทั้งการให้กู้ของบริษัทลูกของแสนสิริ 1,000 ล้านบาท
“ในฐานะที่ผมเป็นผู้ถือหุ้น SIRI 2 หมื่นหุ้น เล็งเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นถึงพฤติการณ์การใช้นอมินีซื้อที่ดินของแสนสิริ และการให้กู้ของบริษัทลูกที่แสนสิริถือหุ้นอยู่ 99.9% คือบริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด ให้เงินกู้ 1 พันล้านบาทกับบุคคลที่บอกว่าไม่รู้จัก ซึ่งแท้จริงแล้วเป็น รปภ. กับแม่บ้าน มีการปั่นที่บวมเงินมัดจำและตัดทอนไป แทบทุกบริษัทที่ขายให้กับแสนสิริ กลายเป็นบริษัทร้างแทบทั้งสิ้น เช่น เอ็น แอนด์ เอ็น และยังมีอีกหลายบริษัทที่ผมจะเปิดเผย จึงนำเรื่องมาให้ ก.ล.ต. สอบสวน เรียกตรวจสอบบริษัทแสนสริ และบริษัทในเครือ” นายชูวิทย์ กล่าว
พร้อมระบุว่า เอกสารหลักฐานต่างๆ ที่นำมามอบให้ ก.ล.ต.ในวันนี้รวบรวมจากตัวแทนของผู้เสียหาย รวมทั้งของตนเองซึ่งเป็นผู้เสียหายในฐานะผู้ถือหุ้นในแสนสิริ โดยเห็นว่าการที่แสนสิริเป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความโปร่งใส สุจริต และมีธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ
นายชูวิทย์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตผู้บริหารของ SIRI หากต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีความโปร่งใส สุจริต และซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของคนที่จะเป็นนายกฯ แต่หากยังมีเล่ห์เหลี่ยมก็ควรกลับไปเป็นนักธุรกิจ เป็นนายทุน เป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ตามเดิม เพราะตราบใดที่ยังมีพฤติกรรมแบบนี้ จะทำให้คนทั้งประเทศไม่ไว้วางใจ
“ถ้าอยากเป็นนายกฯ ก็ต้องชัดเจน โปร่งใส สุจริต ซื่อสัตย์ นี่เป็นคุณสมบัตินายกฯ ไม่งั้นก็กลับไปเป็นพ่อค้า เจ้าพ่ออสังหาฯ เป็นนายทุน ตอนนี้คุณก้าวเข้ามาแล้ว เล่ห์เหลี่ยมที่เคยใช้ตอนเป็นายทุน มันคนละเรื่อง ตอนที่คุณมีกำไรให้ผู้ถือหุ้น ไม่ผิด แต่พอมาเป็นนายกฯ แล้วมีพฤติกรรมแบบนี้ จะทำให้คนทั้งประเทศหวาดเสียว” นายชูวิทย์ ระบุ
นายชูวิทย์ ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนที่รัฐสภาจะมีกำหนดโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นั้น ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ จะมีการเปิดหลักฐานอีกรอบ และจะเป็น EP สุดท้าย
“วันอังคาร คุณจะโหวตก็โหวตไป แต่วันจันทร์ คุณเจอผม ผมจะเปิดตบท้าย สะกิดคุณลงหลุมเรียบร้อย คุณจะไม่เจอผมอีก ผมไม่มีภาคต่อแล้ว” นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ได้มีตัวแทนจาก ก.ล.ต.มารับเรื่องของนายชูวิทย์ และบอกว่าหลังจากนี้จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเอกสารหลักฐานต่างๆ ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 66)
Tags: SIRI, ก.ล.ต., ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, ซื้อที่ดิน, เศรษฐา ทวีสิน, แสนสิริ