สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียกำลังพยายามสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี ท่ามกลางความคลุมเครือด้านกฎระเบียบในสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ภูมิภาคเอเชียมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุน
เบน เจริญวงศ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการเงินจากคณะธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า “กฎระเบียบด้านสกุลเงินคริปโทฯ ในเอเชียมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วและมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งมากกว่าในสหรัฐ” พร้อมเสริมว่า “สิ่งนี้ทำให้เอเชียกลายเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมฟินเทคชั้นนำ”
เมื่อต้นเดือนนี้ ฮ่องกงได้เปิดให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโทฯ อย่างเป็นทางการควบคู่ไปกับการให้ใบอนุญาต 2 แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทฯ ซึ่งได้แก่แฮชคีย์ (HashKey) และ โอเอสแอล (OSL) ให้สามารถขยายการดำเนินงานจากการรองรับเฉพาะนักลงทุนมืออาชีพให้ครอบคลุมถึงนักลงทุนรายย่อยด้วยเช่นกัน
เลนนิกซ์ ไล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าระดับโลกของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทฯ OKX กล่าวว่า “มันแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับ โดยมีสถานะการกำกับดูแลที่คล้ายคลึงกันกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม”
นายไลระบุว่า “สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน และทำให้ฮ่องกงมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะศูนย์กลางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก” พร้อมเสริมว่า OKX กำลังยื่นขอใบอนุญาตผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือนในฮ่องกง
ในปีที่ผ่านมา ฮ่องกงเปิดเผยว่า ได้ตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ และ Web 3.0 ที่จะกลายเป็นอนาคตของด้านการเงินและการพาณิชย์” ตลอดจนคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสด้วยกฎระเบียบที่เหมาะสม
นอกจากนี้ สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่โดดเด่นระดับภูมิภาค ยังเป็นผู้นำด้านการควบคุมกฎระเบียบคริปโทฯ ด้วย โดยธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้มอบใบอนุญาตให้กับ Blockchain.com ในเดือนส.ค. หลังจากได้รับการอนุมัติในหลักการในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ริปเปิล (Ripple) ผู้ให้บริการซื้อขายคริปโทฯ อีกราย ได้รับการอนุมัติในหลักการในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่า Blockchain.com และริปเปิล สามารถให้บริการด้านคริปโทฯ ที่มีการกำกับดูแลในสิงคโปร์
ส่วนประเทศไทยและอินโดนีเซียยังคงห้ามการใช้คริปโทฯ ในการชำระเงิน แต่อนุญาตให้ซื้อขายเป็นสินค้าได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 66)
Tags: Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, นักลงทุน, ภูมิภาคเอเชีย, สหรัฐ