RSP คาด H2/66 ยอดขายโตต่อเนื่อง ได้สิทธิแบรนด์ “Acme De La Vie ADLV”จากเกาหลี

นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ริช สปอร์ต (RSP) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่ายังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี หลังตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาหลักที่อยู่ใจกลางเมืองและจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไป เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น

โดยแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 15-20% โดยมุ่งเน้นการเติบโตจากการเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิม และการขยายสาขาใหม่ รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์

“ทิศทางของ RSP ในปีนี้ ตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัว เราจะมุ่งเน้นการขยายสาขาทั้งในไทยและกัมพูชาและเพิ่มยอดขายต่อสาขาด้วยการบริหารจัดการหน้าร้านอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการกลับมาทุ่มงบฯ ในการทำกิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะการทำการตลาดแบบ on-ground เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยเตรียมเพิ่มสาขาอย่างน้อย 20 สาขา เน้นทำเลที่มีศักยภาพเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัยเพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค” นางสาวพาพิชญ์ กล่าว

ปัจจุบัน แบรนด์ภายใต้การจัดจำหน่ายของ RSP ได้แก่ CONVERSE, Havaianas, BARREL, COLE HAAN, ECCO และ GEOX ในประเทศไทยและกัมพูชา รวมสาขากว่า 216 แห่ง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายกับ Acme De La Vie Company Limited และ Sewoong Global Company Limited จากสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอื่น ภายใต้ตราสินค้า “Acme De La Vie ADLV” โดยสัญญาดังกล่าวให้สิทธิ แก่ RSP ในการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้า “Acme De La Vie ADLV” แต่เพียงผู้เดียวในราชอาณาจักรไทย

สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 61.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 51.4 ล้านบาท เป็นผลจากการควบคุมต้นทุนภายในที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขาย 733.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 567.7 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/66 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 6.7 ล้านบาท ลดลง 52.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 14.3 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขาย 352.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 300.8 ล้านบาท โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากการบริโภคของภาคเอกชนและจากภาคการท่องเที่ยว แต่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ทางการเมืองหลังเลือกตั้ง เกิดความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงผลกระทบจากภาคการส่งออกที่หดตัวลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top