OR ฟุ้ง H2/66 สดใสน้ำมันขาขึ้น-ท่องเที่ยวหนุน ทุ่ม 100 ล้านดอลล์ผุดคลังน้ำมัน-LPG ในกัมพูชา

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ยังสดใส จากราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/66 กลับมาเป็นขาขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากกลุ่มโอเปกพลัส ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย ปรับลดกำลังการผลิตลง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศก็คาดว่าจะกลับมาดีขึ้นในเดือนก.ย.นี้ และช่วงปลายปียังเป็นช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยว ก็คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ช่วยสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันอากาศยาน (Jet) ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมันปีนี้ ประมาณ 100 สาขา, สาขาร้าน Café Amazon อีกกว่า 400 สาขา รวมถึงขยายสาขา Ev station อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจ Global คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งในประเทศ สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งในส่วนของกัมพูชา นอกจากการให้บริการสถานีน้ำมันที่ปัจจุบันมีอยู่ 170 สถานี บริษัทฯ ก็มีแผนลงทุนขยายคลังน้ำมัน เพิ่มเป็น 1 เท่าตัวถึง 1 เท่าตัวครึ่ง จากปัจจุบันมีอยู่แล้วแต่เป็นคลังขนาดเล็ก และก่อสร้างคลัง LPG ใหม่ คาดใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างราว 1 ปีครึ่งถึงจะแล้วเสร็จ จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาสัญญา

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน หลังได้รับสิทธิในการให้บริการระบบบริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานของสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในกรุงพนมเปญ ซึ่งมองว่าจะเข้ามาหนุนการเติบโตของธุรกิจ Global ในอนาคต รวมถึงในประเทศฟิลลิปปินส์ ก็คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ตั้งเป้า EBITDA ธุรกิจ Global ในปี 70 จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 7.6%

นายดิษทัต กล่าวว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโอกาสการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายด้านสุขภาพ และ ความงาม (Health & Beauty) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์กระแสหลัก เรื่องการเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) และกลุ่มประชากรในวัยทำงานที่จะถือเป็นกลุ่มหลักของคนในประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มของการใส่ใจสุขภาพ และความงาม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนารูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสม และอีกอุตสาหกรรมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคือด้านการท่องเที่ยวและที่พัก (Tourism & Accommodation) ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มสอดคล้องกับพันธกิจด้าน All Lifestyle ของ OR ที่ต้องการเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

สำหรับการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/66 บริษัทมั่นใจว่าจะไม่ขาดทุนเหมือนช่วงเดียวกันปีก่อนเนื่องจากธุรกิจหลักยังมีความเข็มแข็ง และจะไม่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (stock loss) รวมถึงมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

นายดิษทัต กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยอมรับว่ารายได้ปี 66 มีโอกาสจะต่ำกว่าปีก่อน ที่ทำได้ 793,418 ล้านบาท สะท้อนจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปีนี้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 77-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปีก่อนที่ 96.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top