CPALL คาด SSSG ครึ่งหลังโตใกล้เคียงครึ่งแรก ตามบริโภคฟื้น-ลุ้นจัดตั้งรัฐบาล

น.ส.จิราพรรณ ทองตัน หัวหน้าสำนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในครึ่งปีหลังนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 8% ตามการบริโภคภายในประเทศที่ยังเติบโตต่อเนื่อง บวกกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ก็คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ที่ 25 ล้านคน ก็น่าจะเข้ามาช่วยให้ยอดขายของร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ไว ก็จะช่วยหนุนยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ ส่งผลทำให้ทั้งปีนี้คาดว่า SSSG จะเติบโตไม่ต่ำกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดไว้ที่ 3-4%

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนยอดขายให้ดีขึ้น โดยยังคงเป้าขยายสาขาปีนี้ไว้ที่ 700 สาขา ซึ่งครึ่งปีแรกที่ผ่านมาขยายไปแล้ว 377 สาขา และที่เหลืออีก 323 สาขา คาดสิ้นปีนี้จะทำได้ถึงเป้าที่วางไว้ ส่วนในต่างประเทศ โดยประเทศกัมพูชา ครึ่งปีแรกเปิดสาขาแล้วทั้งสิ้น 66 สาขา ซึ่งบริษัทฯ ก็พยายามขยายสาขาอย่างเต็มที่ และในเดือนก.ย.นี้ ก็เตรียมเปิดให้บริการสาขาร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาแรกในประเทศลาว

ขณะที่งบลงทุนทั้งปีบริษัทฯ ยังคงวางไว้ที่ 12,000-13,000 ล้านบาท โดยหลักจะใช้ในการขยายสาขา และปรับปรุงสาขา อีกส่วนหนึ่งจะใช้ในการพัฒนาระบบภายใน และซัพพอร์ตธุรกิจภายใน

“บริษัทฯ ยังคงรอลุ้น หรือรอดูในสิ่งที่เราให้มุมมองเอาไว้ ทั้งในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในเดือนหน้าหรือไม่ หากเกิดขึ้นได้จริง ก็จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา ตรงนี้ก็น่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกทั้งหมด หรือค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานจะปรับลงมาได้อีกหรือไม่ หากปรับได้ ก็จะเป็นผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เรามีต้นทุนในการบริหารงานที่ลดลง และมีโอกาสส่งมอบบริการที่ดีขึ้น ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง ก็มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบในปีนี้ทันที ก็ต้องติดตามต่อในปีหน้า แต่อย่างไรก็ตามหากเกิดภัยแล้ง ก็อาจกระตุ้นให้มีความต้องการในการบริโภคของหวาน หรือเครื่องดื่มเย็นๆ คาดว่าเราจะได้รับประโยชน์” น.ส.จิราพรรณ กล่าว

สำหรับหุ้นกู้ วงเงินรวม 43,000 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในอีก 12 เดือนข้างหน้า แบ่งเป็นส่วนของ CPALL จำนวน 30,000 ล้านบาท และบมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) จำนวน 13,000 ล้านบาท โดย CPALL ก็มีแผนออกหุ้นกู้เพื่อ Rollover หุ้นกู้เดิม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในตรมาส 4/66 ขณะที่ CPAXT ก็คาดว่ามีแผนออกหุ้นกู้เช่นเดียวกัน คาดจะออกได้ในช่วงไตรมาส 3/66

อย่างไรก็ตามการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ บริษัทฯ ก็เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ ทำให้ต้นทุนทางการเงินยังอยู่ในระดับที่รับได้ โดยปัจจุบันมีต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 4% ซึ่งหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนด บางชุดจะเป็นหุ้นกู้ระยะยาว หรือราว 10 ปี ก็ถือเป็นโอกาสที่จะ Rollover เป็นหุ้นกู้ระยะสั้น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top